แบบจัดระบบจัดเก็บในห้องครัว

/home/homedecor/domains/www1.homedecorthai.com/public_html/templates/default/ext/ui/article_detail.tpl.php แบบจัดระบบจัดเก็บในห้องครัว

แบบจัดระบบจัดเก็บในห้องครัว

27 ก.ย. 2554

แบบจัดระบบจัดเก็บในห้องครัว

สิ่งที่ช่วยทำให้การเข้าครัวไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าเบื่ออีกต่อไป คงไม่ได้อยู่ที่ความสวยงามภายนอกของห้องครัวเพียงอย่างเดียว
ว่าสุนทรียภาพในการเข้าครัวที่แท้จริง นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ หากคุณเข้ามาในครัวแล้วรู้สึกสนุกในแบบต่างๆที่จะช่วยให้ระบบการจัดเก็บสิ่งของต่างๆ

ภายในห้องครัวนั้นสะดวกและง่ายต่อการใช้งาน อีกทั้งยังช่วยมาเสริมหน้าตาให้ห้องครัวดูสวยล้ำทันสมัยขึ้นด้วย kitchen
มีเรื่องราวเกี่ยวกับระบบจัดเก็บในห้องครัว ที่จะมาช่วยสร้างบรรยากาศให้กิจกรรมในห้องครัวนั้นเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เพราะการออกแบบครัว
ให้เข้ากับยุคสมัยใหม่นี้มักจะเต็มไปด้วยอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ชนิดต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้

ทั้งนี้เนื่องจากสิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรก สำหรับการตกแต่งห้องครัวก็คือการวางตำแหน่งของอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในครัวให้ถูกต้อง
เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการหยิบใช้

ดังนั้นข้าวของที่จัดอย่างเป็นระเบียบ การทำงานในห้องครัวด้วยความสะดวกไม่มีสิ่งของกีดขวางทุกอย่างหยิบใช้ได้ง่าย ย่อมเป็นที่พึงพอใจ
กับผู้ใช้ซ้ำยังเป็นการเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับห้องครัวด้วย อย่างวัสดุอุปกรณ์จัดเก็บในครัว ดีไซน์ของแบรนด์ดังๆ

ซึ่งนอกจากการเพิ่มฟังก์ชันส่วนนี้จะทำให้ห้องครัวดูสวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วก็ยังช่วยให้เราหาของได้ง่ายขึ้นด้วย”
มารู้จักกับประเภทของระบบจัดเก็บ

- รางลิ้นชัก
ปกติแล้วรางลิ้นชักแบ่งออกเป็นรางลิ้นชักตอนเดียว (Meta Box) และรางลิ้นชักแบบ 2 ตอน (Tandem Box) มีคุณสมบัติแตกต่างกันตรงความ
สะดวกในการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน เพราะคุณลักษณะของ รางลิ้นชักแบบ 2 ตอน ตัวกล่องลิ้นชักจะถูกดึงออกมาจนสุดจากโครงตู้ ซึ่งสะดวกในการหยิบ
ใช้หรือหาของในขณะที่รางตอนเดียว กล่องลิ้นชักจะยังอยู่ในตู้ประมาณ 4-5 เซนติเมตร ดังนั้นรางลิ้นชักแบบ 2 ตอนจึงมีความเหมาะสมกับการใช้งานใน
ห้องครัวมากที่สุด แต่ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและขนาดห้องครัวเช่นกัน

- บานพับ
แบบบานยกเดี่ยวเฉียงเข้า ช่วยประหยัดเนื้อที่มากกว่าแบบบานยกขึ้น เพราะแบบบานยกขึ้นจะมีลักษณะการเปิดที่หน้าบานมีความสูงเท่าไร
หน้าบานที่ถูกเปิดก็จะสูงขึ้นตามนั้น แต่แบบบานยกเดี่ยวเฉียงเข้าหน้าบานจะถูกเก็บเข้าไปในตู้ส่วนหนึ่ง แบบยกขึ้น แบบยกคู่ แบบยก 90 องศา
บานพับทั้งหมดนี้ถูกดีไซน์เป็นแบบเปิดขึ้นตามความสูงของหน้าบานนั้นๆ แต่ Blum เล็งเห็นถึงความสะดวกของผู้บริโภคว่า บางครั้งความสูงและ
ความสะดวกของผู้บริโภคอาจแตกต่างกัน จึงมีการออกแบบและทำขนาดที่สูงพอเหมาะกับผู้ใช้ ซึ่งตรงนี้ก็สามารถช่วยให้สะดวกในการใช้งานมากขึ้น

- สเตนเลส
สเตนเลสที่ใช้เป็นสเตนเลสเกรด A ที่ไม่มีส่วนผสมใดๆ ปะปน คุณสมบัติของสเตนเลสแท้จึงมีความทนทาน สนิมขึ้นช้า หรือไม่ก็ไม่มีสนิมขึ้นเลย

- Accessories
ตัวกั้นแบ่งช่อง ในลิ้นชักจะมีตัวกั้นแบ่งช่องหลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความต้องการและขนาดของลิ้นชัก เพื่อความสะดวกใน
การหยิบใช้ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ภายในครัว ถาดใส่ช้อน-ส้อม ลักษณะของถาดใส่ช้อน-ส้อมของ Blum ถูกออกแบบมาเพื่อความคล่องตัว
ในการใช้งานโดยเฉพาะไม่จำกัดรูปแบบหรือตำแหน่งในการวาง สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้บริโภค ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความกว้าง
ของหน้าบานด้วยแผ่นยางรองพื้น มีความสำคัญกับระบบจัดเก็บเช่นกัน นอกจากจะกันกระแทกหรือกันเลื่อนแล้ว หากนำแผ่นยางรองพื้นไปรองขวด
เครื่องปรุงอย่างน้ำปลาซีอิ๊วหรือน้ำตาล บังเอิญเกิดหกลงไปบนแผ่นยางรองพื้น รวมถึงฝุ่นละอองที่เกาะอยู่ตามแผ่นยางก็สามารถยกไปล้างทำความสะอาด
ได้ง่าย

Dynamic Space อีกหนึ่งแบรนด์ของ Blum เป็นความคิดการจัดวางผังครัวให้สะดวกกับผู้บริโภค Dynamic Space เป็นการเคลื่อนไหวในห้องครัว และอุปกรณ์ที่สะดวกในการใช้งาน ซึ่งการเคลื่อนไหวก็หมายถึง การเดินจากจุด A ไปยังจุด B และ C ด้วยการเดินให้เป็นสามเหลี่ยม คือใช้พื้นที่ในการเดินให้น้อย
ที่สุด ซึ่ง Dynamic Space เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการจัดห้องครัวว่าเราจะจัดลิ้นชัก หรือจะกั้นแบ่งช่องอย่างไร เขาพยายามจะไม่ให้วุ่นวายในการจัด อย่างเช่นอุปกรณ์ในการทำอาหารควรจะอยู่ใกล้กับโซนเตรียมอาหาร โดยมี Accessories เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่ง Dynamic Space นั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 โซน
ได้แก่
- โซนเตรียมอาหาร
- โซนทำอาหาร
- โซนทำความสะอาด (ซิงก์ล้างจาน)
- โซนเก็บอาหาร
- โซนเก็บข้าวของเครื่องใช้ภายในครัว

ทั้ง 5 โซนนี้จะถูกจัดให้เข้ากับรูปแบบที่วางไว้ ดังนั้นประสิทธิภาพในการใช้ครัวจึงมีมากขึ้น แล้วแต่ละโซนก็จะมี Accessories แยกย่อยไปอีก
อย่างเช่น โซนทำอาหารจะมีเตาเป็นอุปกรณ์หลัก ส่วนพื้นที่ด้านล่างก็จะมีลิ้นชัก และมีตัวกั้นแบ่งช่องสำหรับเก็บหม้อ กระทะ หรือตะหลิว
หรือโซนเก็บอาหารก็เป็นตัวกั้นแบ่งช่องอีกแบบหนึ่ง เรียกว่ารูปลักษณ์ของ Accessories นั้นมีรูปร่างที่เหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่เราจะจัดอย่าง
ไรให้ลงตัวเท่านั้นเอง

ส่วนใครที่ชอบอุปกรณ์ประเภทตะกร้า ตะแกรง ที่นำมาติดตั้ง ใส่ไว้ในตู้เพื่อไว้สำหรับจัดเก็บอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ในครัว
เรายังมีอีกหนึ่งดีไซน์และประโยชน์ใช้สอยของอุปกรณ์ตะกร้า ตะแกรง KESSEBOHMER ผู้ผลิตอุปกรณ์จัดเก็บรายใหญ่ที่สุดของประเทศเยอรมนี
มาฝากค่ะ เผื่อจะได้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการจัดเก็บสิ่งของในครัวของคุณให้เป็นระบบระเบียบยิ่งขึ้น

ประเทศเยอรมนีถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตสินค้าคุณภาพชั้นเยี่ยมที่ได้รับความไว้วางใจจากบรรดาชุดครัวดังๆ หลายยี่ห้อ และกว่า 20 ปีแล้วที่บ้าน
เราได้มีโอกาสยลโฉมอุปกรณ์จัดเก็บดีไซน์ทันสมัย ภายใต้การนำเข้าโดย บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) สาขา โฮมเดคคอเรตีฟ
โปรดัคส์ ผู้นำธุรกิจด้านวัสดุอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์และวัสดุตกแต่งคุณภาพจากต่างประเทศมานานกว่า 27 ปี ตะกร้า ตะแกรงพวกนี้จัดได้ว่ามีลูกเล่น
แพรวพราวให้เราได้ใช้ ได้จัดวาง เยอะแยะมากมายทีเดียวเลยค่ะ อีกทั้งยังมีให้เลือกตั้งแต่ที่คว่ำจาน ที่เก็บขวดเครื่องปรุง ถังเก็บขยะใต้ตู้ ไปจนถึงตู้
หรือชั้นวางของขนาดใหญ่...โอกาสนี้ คุณกู้เกียรติ โอฬารกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายโฮมเดคคอเรตีฟ โปรดัคส์ ผู้ดูแลผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
ได้แนะนำถึงอุปกรณ์เหล่านี้ไว้ว่า

ปัจจุบันความสำคัญของระบบจัดเก็บในห้องครัวมีความแตกต่างจากสมัยก่อน เพราะหน้าตาของห้องครัวที่เปลี่ยนไป คนรุ่นใหม่ไม่นิยมทำครัว
หนักเหมือนก่อน หรือถ้ามีการทำครัวหนักจริงๆ ส่วนใหญ่จะมีครัวประเภทนี้ไว้หลังบ้าน แต่ครัว ณ วันนี้ เปรียบเสมือนครัวรับแขก ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของเฟอร์นิเจอร์โชว์ในบ้าน ซึ่งอีกไม่นานจะได้เห็นรูปแบบใหม่ๆ ของห้องครัว ที่จะเชื่อมโยงไปยังห้องนั่งเล่นด้วย

“คอนเซ็ปต์ใหม่ของห้องครัวนั้นจึงมีลูกเล่นให้ได้สนุกมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะหน้าตาของระบบการจัดเก็บอุปกรณ์ในครัวที่ถือเป็น Accessories
ที่สามารถตอบโจทย์เรื่องประโยชน์ใช้สอยในครัวได้ดีที่สุด ซึ่งตลอดระยะเวลา 20 ปีที่มีการนำเข้าอุปกรณ์เหล่านี้เข้ามา ผลตอบรับดีมาก
ซึ่งบรรดาเฟอร์นิเจอร์ดังๆ จากยุโรปล้วนใช้อุปกรณ์ของ KESSEBOHMER แทบทั้งสิ้น ดังนั้นถ้านึกถึงอุปกรณ์ตะกร้า ตะแกรง ก็ต้องนึกถึงยี่ห้อนี้”

สำหรับจุดเด่นของ KESSEBOHMER นั้นมีความโดดเด่นในเรื่องความคงทนในการใช้งาน โดยตะกร้า ตะแกรงเหล่านี้ ทำมาจากเหล็กที่นำไปชุป
ด้วยทองแดง นิกเกิล และเคลือบทองแดงอีกหนึ่งชั้นและชุปด้วยโครเมียมในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งตัวทองแดงจะเป็นตัวที่ป้องกันกันการเกิดสนิม
ส่วนการดีไซน์ก็จะเน้นความทันสมัยและครอบคลุมทุกพื้นที่การใช้งาน โดย KESSEBOHMER มีโรงงานผลิตขนาดใหญ่

ฉะนั้นเรื่องการพัฒนาสินค้าจึงมีการเปลี่ยนแปลงคิดค้นสินค้าใหม่ๆ ออกมาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอุปกรณ์เสริมต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้ประโยชน์ใช้สอย
ในครัวได้อย่างเต็มที่ อย่างที่เก็บจานชามจะเป็นลักษณะลิ้นชักที่ถูกเก็บซ่อนไว้อยู่ภายในตู้ ซึ่งสามารถใส่ได้ทั้งจาน ชาม หม้อ หรือของแห้งต่างๆ
ตามแต่ผู้ใช้จะประยุกต์

โดยอุปกรณ์ไฮไลต์จะมีตั้งแต่ชุดตะแกรงสำหรับตู้เก็บของแบบเข้ามุม ที่โดยปกติตู้เก็บของเข้ามุมในแบบเดิมๆ ตรงพื้นที่บางส่วนที่หลบอยู่ข้างในได้ทำให้ประโยชน์ใช้สอยตรงมุมตู้หายไป แต่สำหรับดีไซน์ที่ KESSEBOHMER ทำออกมานี้เน้นการออกแบบให้ทุกพื้นที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ครบถ้วน
ซึ่งสามารถเปิดสไสด์ตัวตะแกรงออกมาได้ทั้งหมด สมกับชื่อ MAGIC CORNER ซึ่งตู้เก็บของแบบเข้ามุมนี้เหมาะสำหรับหน้าบาน 600 มิลลิเมตร
สามารถใช้ในการเก็บอุปกรณ์ครัวต่างๆ ได้

นอกจากนี้ยังมีชั้นเก็บของแบบเข้ามุมสำหรับตู้ล่างหน้าบาน 500 มิลลิเมตร ที่เพิ่มความสะดวกในการใช้งานด้วยอุปกรณ์ ตะแกรงครึ่งวงกลมเข้ามุม
ที่เรียกว่า TURN MOTION เวลาใช้งานพียงดันเข้าไป ตัวตะแกรงที่ซ่อนอยู่ในตู้ก็จะสามารถหมุนได้รอบหรือแม้แต่ชุดตะแกรงที่ใช้กับตู้สูง
ได้มีการพัฒนาจากแบบเดิมที่ดึงออกมาใช้งานเพียงด้านเดียว โดยดีไซน์ใหม่ของชุดตะแกรงที่ใช้กับตู้สูง สำหรับหน้าบาน 300 มิลลิเมตร
ได้มีการออกแบบตัวตะแกรงให้สามารถหมุนซ้าย-ขวา ช่วยให้การหยิบของได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งดีไซน์แบบนี้มีชื่อเรียกว่า DISPENSA SWING
ในขณะที่ตู้เก็บของแบบลอยตัวก็มีดีไซน์ที่เรียกว่า LIFT-UP ขึ้นมาเพื่อตอบสนองให้การใช้งานได้ง่ายขึ้น

แม้จะอยู่สูงแต่ก็สามารถดึงลงจนมาถึงตัวทำให้ผู้ใช้สามารถหยิบของได้ง่าย และนอกจากบรรดาตะกร้า ตะแกรงจะถูกนำไปซ่อนไว้อยู่ในตู้ต่างๆ แล้ว KESSEBOHMER ยังดีไซน์ชุดอุปกรณ์แขวนแบบหมุนได้พร้อมเสา มีความสูง 2 ขนาด คือ 1,208 เมตร และ 1,825 เมตร ที่มีอุปกรณ์เสริมไม่ว่าจะเป็น
ชุดตะแกรงรูปทรงในแบบต่างๆ สำหรับวางของและท็อปโต๊ะเลื่อนได้รูปทรงสี่เหลี่ยม สำหรับเตรียมหรือรับประทานอาหารแบบง่ายๆ

อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมที่เกี่ยวกับระบบการจัดเก็บในครัวนั้นไม่เคยหยุดนิ่ง ล่าสุดกับพัฒนาการอีกก้าวหนึ่งของวัสดุพื้นผิวสำหรับรองรับอุปกรณ์ครัว
ซึ่งในอนาคตทางโฮมเดคคอเรตีฟ โปรดัคส์ ก็จะนำเข้าของเล่นชิ้นใหม่นี้มาให้คนรักครัวได้ลองใช้กันกับ ARENA PLUS พื้นที่เคลือบผิวหน้าพิเศษ
ที่ป้องกันการเลื่อนไหลในกรณีที่ใส่ภาชนะต่างๆ ในตู้เวลาเปิด–ปิดที่อาจทำให้ภาชนะข้างในเลื่อนกระทบกันจนเกิดเสียง

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของรางลิ้นชักกับบานพับ ระบบ Soft Close ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของแบรนด์ MEPLA ALFIT จากเยอรมนี
ซึ่งเมื่อนำไปติดตั้งจะช่วยลดเสียง ช่วยลดแรงกระแทกขณะเปิด-ปิดตู้หรือลิ้นชักได้เป็นอย่างดี มีให้เลือกทั้งบานเปิด-ปิด และบานเลื่อน
ซึ่งเทรนด์ในอนาคตของชุดครัวต่างๆ จะถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นระบบนี้ทั้งหมด เห็นไหมล่ะคะว่า ระบบจัดเก็บภายในห้องครัวถือเป็นเรื่องสำคัญ
เพราะนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการหยิบใช้ข้าวของครั้งต่อไปแล้ว การทำห้องครัวให้เป็นระบบระเบียบนั้นยังจะช่วยให้คุณปลอดภัย,
จากการใช้งานทุกครั้งด้วย

ท้ายนี้ ใครที่กำลังมองหาหรือกำลังวางแผนเลือกซื้ออุปกรณ์จัดเก็บต่างๆ ภายในห้องครัว สิ่งที่ควรคำนึงถึงก็ คือการเลือกซื้อสินค้า
ที่มียี่ห้อดี มีมาตรฐาน เพราะปัจจุบันมีสินค้าเลียนแบบเกิดขึ้นมาจำนวนมาก และมีการแข่งขันกันในเรื่องราคากันค่อนข้างสูง แต่ที่สุดแล้วของ
ที่คิดว่าถูกอาจกลับกลายเป็นของแพงก็เป็นได้ ที่สำคัญให้คำนึงถึงการใช้งานในระยะยาวเพราะอุปกรณ์เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของบ้าน
ที่จะอยู่กับเราไปนานแสนนาน