
เฉลียงกลางแจ้งอันร่มรื่นบนชั้นสอง เชื่อมต่อและแบ่งแยกบ้านทั้งสองหลังนี้ เนื่องจากบ้านสร้างเกือบเต็มพื้นที่ พี่เขยผู้ออกแบบบ้านหลังนี้จึงออกแบบผนังระแนงไม้ที่สูงเป็นพิเศษ ช่วยกั้นมุมมองทางสายตา และยังช่วยให้เฉลียงนี้มีความร่มรื่นอีกด้วย
จากที่กล่าวนำมานี้ คงทำให้หลายๆ คนทราบว่าบ้านของเธอและครอบครัว จะสวยงามแปลกตาอย่างไร จะมีข้าวของจากการเดินทางมากน้อยเท่าไร แต่ขอเสริมอีกนิดว่า ในบ้านที่ยังมีสมาชิกในครอบครับที่ล้วนเป็นคนหัวศิลป์ ตั้งแต่ คุณพ่อคุณแม่ศิษย์เก่ามัณฑนศิลป์ พี่เขยผู้เป็นสถาปนิก/มัณฑนากร และสามีผู้ทำภาพยนตร์โฆษณา และตัวเธอเองที่เคยทำงานเอเจนซี่มาก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านจึงผ่านการคัดสรรมาอย่างสมบูรณ์ เพื่อครอบครัวนี้ โดยเฉพาะบ้านสวยที่ถูกออกแบบได้อย่างลงตัวในพื้นที่เพียง 97 ตารางวา ดูร่มรื่นและเงียบสงบด้วยต้นไม้ที่จัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสม แท้จริงแล้วบ้านหลังนี้ออกแบบขึ้นสำหรับ 2 ครอบครัว นั่นคือบ้านของพลอยและสามี บิน กิจขจรพงษ์ ส่วนอีกหลังที่เป็นสัดส่วนแต่ดูกลมกลืนราวบ้านหลังเดียวกันคือ บ้านของคุณพ่อและพี่เขยผู้ออกแบบบ้านและช่วยตกแต่งบ้านของเธอนั่นเองบ้านนี้ถูกออกแบบจากแนวคิดบ้านเรือนไทยหมู่ อาคารด้านหน้าเป็นของคุณพ่อและพี่เขย ด้านหลังเป็นส่วนของพลอยและบิน โดยมีพื้นที่ชั้นล่างเป็นพื้นที่ส่วนกลาง เป็นมุมครัว มุมรับประทานอาหาร ชั้นสอง เป็นเฉลียงเปิดโล่งขนาดใหญ่ที่แบ่งกั้นและเชื่อมต่ออาคารสองส่วนนี้
พี่เขย - พงศกร กิจขจรพงษ์ รับหน้าที่ออกแบบและดูแลการตกแต่งภายใน พี่เขยเขาออกแบบคล้ายกับบ้านไทยโบราณที่มีหลายหลัง เชื่อมต่อกัน ด้วยตัวระเบียง ชั้นล่างเสมือนใต้ถุนเป็นที่จอดรถ ห้องรับประทานอาหารและห้องครัว ซึ่งทางขึ้นหน้าบ้านจะอยู่ชั้นสอง มีเฉลียงใหญ่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ล้อมรอบด้วยบ้านของครอบครัวเราที่แยกเป็นสองส่วน พลอยอธิบาย
เราเป็นคนชอบเดินทาง ชอบเดินตลาดของเก่า ชอบเดินดูของสวยๆ ของที่เห็นในบ้านก็จะเป็นของที่มาจากการเดินทางทั้งนั้น พลอยบอกด้วยเหตุนี้เอง ที่เธอเลือกตกแต่งห้องนั่งเล่นให้มีโทนสีเข้มขรึม ราวกับเป็นเสมือนฉากหลังให้กับข้าวของสีสดที่สะสมไว้ แต่ถ้ามีแต่สีเย็นๆ ขรึมๆ ก็คงดูเย็นชาเกินไป ดังนั้นพื้นในห้องนี้จึงเลือกใช้เป็นพื้นไม้สีอบอุ่น แล้วยังเป็นพื้นไม้เก่ามาเคลือบเงาใหม่เท่านั้น ร่องรอยต่างๆ บนเนื้อไม้ที่ผ่านการใช้งาน ทำให้ห้องนั่งเล่นในบ้านหลังใหม่นี้ดูอบอุ่นขึ้นในพริบตา พื้นไม้เก่าเราซื้อมาจากอยุธยา เพราะเราอ่านหนังสือเยอะ เห็นตัวอย่างมากมาย คิดเสมอว่าวันหนึ่งถ้าเราทำบ้าน ก็จะดูว่าวัสดุ ตัวไหนน่าสนใจในงบประมาณที่เป็นไปได้ พลอยเล่า
ความสวยโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านนี้มาจากเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งที่ดูมีเรื่องราวผูกผันกับเจ้าของบ้าน แม้ว่าของหลายชิ้น อาจไม่ใช่สมบัติตกทอด แต่พวกเขาได้เลือกซื้อมาสะสมไว้เพราะมีรูปลักษณ์ที่คุ้นตา ช่วยให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ของบ้านสมัยที่พวกเขาใช้ชีวิตในวัยเด็ก พลอยอยู่เป็นครอบครัวใหญ่มาตั้งแต่เด็ก คุณยาย คุณตา พ่อแม่ และบ้านคุณตาเป็นบ้านโบราณอายุ 60-70 ปี เราอยู่กับของโบราณของเก่ามานานทำให้ชอบไปโดยไม่รู้ตัว พอมามีบ้านของเราเองจึงชอบเดินร้านเฟอร์นิเจอร์ ร้านในจตุจักร ร้านขายของเก่า คอยมองหาชิ้นที่มีรูปแบบใกล้เคียงกับที่บ้านเดิม พลอยเล่า
นอกจากนี้ เธอยังบอกว่าตัวเองมีนิสัยที่ถ้าชอบของชิ้นไหนแล้ว จะถามจนได้คำตอบว่าของชิ้นนั้นมาจากไหนอีกด้วย และวิธีนี้เองที่ช่วยให้เธอมีของสวยๆ ที่ถูกใจเสมอ เวลาพลอยไปตัดต่อโฆษณา ที่นั่นจะมีเก้าอี้ตัวหนึ่ง ที่เขาเรียก เก้าอี้ดูดวิญญาณ คือนั่งทีไรแล้วจะหลับทุกที เพราะนั่งสบายมาก ก็ถามจากพี่คนหนึ่งจนทราบว่ามีร้านแถวทองหล่อทำเฟอร์นิเจอร์ส่งออก และรับสั่งทำด้วย ก็เลยไปดูกัน และก็ได้เก้าอี้ตัวนี้มา พลอยเล่าถึงที่มาของโซฟาหนังทรงคลาสสิกตัวใหญ่แสนสบายของเธอ
เนื่องจากบินเป็นผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณา และชื่นชอบชมภาพยนตร์ต่างๆ เป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงมีคอลเลคชั่นแผ่น DVD จำนวนมากที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บ ผนังหลังโซฟาที่ดูเผินๆ อาจคิดว่าเป็นแผ่นผนังตกแต่ง แท้จริงแล้วคือตู้เก็บของขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วย แผ่น DVD หน้าบานกรุทับอีกชั้นด้วยแผ่นเหล็กไม่ทาสี ปัจจุบันเริ่มเกิดสนิมเป็นริ้วรอยที่น่าสนใจ และเป็นที่ติดโชว์ปุ่มแม่เหล็ก โปสการ์ด ภาพถ่าย ที่เธอได้มาจากการเดินทางจนกลายเป็นผนังที่สร้างสีสัน ให้กับห้องนั่งเล่น และสะท้อนความเป็นตัวตนของครอบครัวนี้