/home/homedecor/domains/www1.homedecorthai.com/public_html/templates/default/ext/ui/article_detail.tpl.php
ไม่ใช่เรื่องความเชื่อหรือมีหมอดูมาทักว่าบ้านหลังนี้อยู่แล้วจะโชคร้าย แต่อุบัติเหตุในบ้านเกิดได้ทั้งจากความไม่ระมัดระวังของผู้อยู่อาศัยและความผิดพลาดของการออกแบบ รวมถึงช่างรับเหมาที่ก่อสร้างอย่างเผอเรอ ซึ่งอาจกลายเป็นค้นเหตุทำให้เจ็บตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงมีโอการเสียชีวิตได้เหมือนกัน ซึ่งบทความนี้จะช่วยชี้ให้เห็นจุดเกิดเหตุอันตรายยอดฮิต 8 จุดในบ้าน ซึ่งคุณสามารถเตรียมการป้องกันไว้ก่อนได้ด้วยการออกแบบเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุภายในบ้านค่ะ
1. เหตุเกิดที่บันได เป็นจุดเกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุด เพราะแคบและเป็นพื้นที่ต่างระดับ แม้กฎหมายจะระบุขนาดของลูกนอนและลูกตั้งไว้แล้ว แต่ในการใช้งานจริง ขนาดดังกล่าวอาจเล็กเกินไป ดังนั้นควรออกแบบให้เหมาะกับแต่ละบ้านจะดีกว่า โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุ นอกจากนี้ก็อย่าลืมคำนึงถึงเรื่องวัสดุที่ใช้ด้วย
1.1 ราวบันได หากมีเด็กเล็กในบ้าน การใช้ราวบันไดแบบปิดทึบปลอดภัยที่สุด เพื่อป้องกันการลอดผ่านซี่ลูกกรง แต่หากเลือกใช้แบบลูกกรง ลักษณะแบบกลมมนจะช่วยลดการบาดเจ็บได้ 1.2 ลูกตั้ง ความสูงของลูกตั้งต้องสัมพันธ์กับขนาดของลูกนอน เพราะอุบัติเหตุมักเกิดจากการสะดุดความสูงเฉลี่ยที่ต่างกันในแต่ละขั้น ในช่วงขั้นแรก ๆ (ด้านล่าง) และขั้นสุดท้าย (ด้านบน) 1.3 ลูกนอน ความกว้างที่พอดีไม่ควรต่ำกว่า 25 เซนติเมตร เพราะสามารถเหยียบได้เต็มเท้า ผิววัสดุก็ต้องเรียบแต่ไม่ลื่น เช่น พื้นไม้ พื้นปูนซิเมนต์ขัดมัน และพื้นกระเบื้อง 1.4 จมูกบันได นอกจากช่วยเพิ่มความกว้างของลูกนอนแล้ว ยังช่วยป้องกันการลื่นไถลขณะก้าวเดิน รูปแบบของจมูกบันไดมีได้ทั้งการเซาะร่องเพื่อกันลื่นและใช้วัสดุชนิดเดียวกับลูกนอนแต่ทำผิวหยาบ ควรตกแต่งส่วนปลายให้โค้งมน ลดมุมแหลม 1.5 ไฟพื้น เพิ่มไฟตามขั้นบันไดในกรณีที่ทางเดินมืดทึบ แต่ควรออกแบบไว้แต่แรก เพราะจะสามารถเก็บซ่อนไฟให้เสมอกับขอบบันไดได้โดยไม่ยื่นเกะกะ 1.6 สวิตช์ไฟ ลดการเดินขึ้น-ลงบันไดเพื่อปิดไฟด้วยการติดสวิตช์ส่องทางไว้ทั้งด้านบนและด้านล่าง 1.7 ทางขึ้น-ลง หาที่กั้นปิดทางไว้ตั้งแต่บริเวณขึ้น-ลง เป็นการกันไว้ดีกว่าแก้ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็ก
2. เหตุเกิดที่สวิตช์และปลั๊กไฟ ควรหมั่นตรวจเช็กอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านเสมอๆและเปลี่ยนทุก78ปีการแยกระบบไฟฟ้าไว้อย่างดีตั้งแต่แรกจะช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันได้
2.1 เมนสวิตช์ เข้าถึงง่าย ระบายอากาศได้ดี และห่างจากวัสดุที่ติดไฟ เช่น ผ้า กระดาษ และสารไวไฟ 2.2 เมนสวิตช์ ควรแยกวงจรเฉพาะระบบไฟฟ้าชั้นล่างออกต่างหากช่วยให้ตัดไฟได้สะดวกกรณีที่มีน้ำท่วมขัง 2.3 สวิตช์เปิด-ปิด หากสวิตช์มีรอยร้าวหรือแตกควรเปลี่ยนใหม่ทันที และไม่ติดตั้งในส่วนที่ชื้นแฉะ กรณีที่ติดตั้งอยู่นอกตัวบ้าน ควรเลือกใช้สวิตช์แบบมีฝาครอบ 2.4 เต้ารับ ติดตั้งให้เพียงพอกับการใช้งานในแต่ละจุด ลดการลากสายไฟระโยงระยางไปทั่วบ้าน อีกทั้งการใช้ไฟจุดเดียวพร้อมกัน อาจะเกิดความร้อนจากการใช้ไฟเกินขนาดได้ 2.5 ความสูงของสวิตช์ + ปลั๊ก สวิตช์และปลั๊กควรสูงจากพื้นประมาณ 90 เซนติเมตร ป้องกันเวลาน้ำท่วมบ้านและสูงพ้นมือเด็ก 2.6 เต้าเสียบ หากเต้ารับอยู่ในตำแหน่งที่เด็กเอื้อมมือถึง ควรหาเต้าเสียบหลอกทำจากพลาสติกทนความร้อนมาเสียบไว้ มือเด็กจะได้ไม่พลาดไปโดน 2.7 สายไฟ ไม่ควรเดินสายไฟไว้ที่พื้นลอย ๆ เพราะอาจถูกเฟอร์นิเจอร์ทับ ควรซ่อยไว้ในผนังหรือร้อยผ่านท่อ EMT เพื่อความปลอดภัยและช่วยยืดอายุการใช้งาน
3. เหตุเกิดที่ประตู ควรเลือกใช้บานประตู ประตูบานเลื่อน และประตูบานเฟี้ยมที่กั้นทางเข้า-ออกภายในบ้านให้เหมาะกับพื้นที่ ซึ่งแต่ละบานหนักเป็นสิบ ๆ กิโลกรัม หากติดตั้งไม่ดีอาจใช้งานลำบากและเกิดอุบัติเหตุได้ ไม่ว่าจะเป็นโดนประตูหนีบ ประตูตีกลับ ชนประตู ขังตัวเอง หรือประตูตกร่อง
3.1 โช้กอับ โช้กอับเป็นอุปกรณ์ช่วยกันประตูหนีบมือและป้องกันการเกิดเสียงดังรบกวนได้ดี เหมาะกับส่วนที่ใช้งานประจำ 3.2 บานพับ บานประตูโครงไม้อัดทั่วไปควรติดบานพับ 4 จุด (ค่อนไปทางด้านบนของประตู 2 จุด) เพื่อช่วยรับน้ำหนักและเปิดง่าย เบามือ 3.3 ลูกบิด สำหรับห้องที่ไม่มีของสำคัญหรือเด็กอยู่ด้วย ควรใช้ระบบล็อกแบบที่สามารถใช้เหรียญไขล็อกได้ (มีให้เลือกทั้งแบบลูกบิดและก้านโยก) เผื่อกรณีฉุกเฉิน หาแม่กุญแจไม่เจอ 3.4 ตัวหยุดประตู หากเป็นบานประตูที่ต้องเปิดค้างเป็นประจำ เช่น ประตูหน้าบ้าน ประตูหลังบ้าน ควรมีตัวหยุดประตูติดกับผนังหรือพื้น ป้องกันประตูตีกลับ หากส่วนของประตูมีพื้นที่พอ อาจใช้แบบแม่เหล็กติดผนัง แต่ถ้าในบริเวณนั้นมีลมแรง ควรใช้แบบตัวขอเกี่ยว จะมั่นคงกว่า 3.5 ซ่อนกระจก สำหรับประตูตรงส่วนทางเดินที่มักใช้เข้า-ออกทั้งสองทาง ควรมีช่องโปร่งให้เห็นได้บ้าง กันการเปิดกระแทกพร้อมกันสองด้าน 3.6 มือจับ มือจับแบบฝังใน บานประตูเหมาะจะใช้กับพื้นที่เล็ก ๆ แคบ ๆ เพราะช่วยให้ไม่เกี่ยวหรือชนกับมือจับ
4. เหตุเกิดที่ห้องน้ำ ถ้าแยกส่วนอาบน้ำและส่วนสุขภัณฑ์ออกเป็น 2 ห้องอาจช่วนลดการเกิดอุบัติเหตุ เพราะเป็นการแยกส่วนเปียกและแห้งอย่างชัดเจน เหมาะกับบ้านที่มีเด็กและผู้สูงอายุซึ่งต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
5.1 ตู้แขวน ส่วนปรุงอาหารและส่วนล้างจานไม่ควรติดตั้งตู้เเขวน เพราะจะเกะกะการทำงานและชนได้ง่าย 5.2 ตู้เย็นและไมโครเวฟ เว้นพื้นที่โดยรอบให้ระบายอากาศได้ดี ลดการยื่นเกะกะขวางทางเดิน 5.3 เคาน์เตอร์ หากมีพื้นที่ทางเดินแคบ ๆ ระหว่างเคาน์เตอร์ ควรเปลี่ยนขอบเคาน์เตอร์ให้โค้งมน ลดมุมฉากแหลม ๆ เว้นส่วนด้านล่างกันเตะโดนไว้สูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร 5.4 เตาเเก๊ส วางในที่เย็น อากาศถ่ายเทสะดวก สะอาด ห่างจากแหล่งอาศัยของสัตว์ไม่พึงประสงค์ หากวางไว้นอกครัวแล้วต่อสายเข้ามาจะปลอดภัยกว่า แต่ควรใกล้มือและอยู่ในสายตาเพื่อเปิด-ปิดวาล์วแก๊สได้สะดวก 5.5 ที่เก็บมีด เก็บมีดไว้ด้านในสุดของเคาน์เตอร์ครัว หรือเก็บในช่องเก็บมีดแนวนอน วางในลิ้นชักชั้นแรกที่มีแสงสว่างส่องถึงเพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนเวลาหยิบใช้งาน 5.6 ก๊อกน้ำ ก๊อกควรสูงจากอ่างประมาณ 1 คืบ (ประมาณ 15 เซนติเมตร) กันการกระแทกระหว่างล้างจาน 5.7 อ่างล้างจาน ควรออกแบบให้ส่วนก้นของอ่างล้างจานมีความลึกสักหน่อยเพื่อกันน้ำกระเด็นลงพื้น และเผื่อพื้นที่คว่ำจานใกล้ ๆ อ่าง โดยทำพื้นลาดและท่อระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำขัง 5.8 ถังดับเพลิง ควรเตรียมถังดับเพลิงไว้บริเวณทางออกครัว เผื่อฉุกเฉินเกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้ 5.9 พื้น ใช้วัสดุเรียบแต่ไม่ควรลื่นและรองด้วยผ้าปูพื้นในบริเวณล้างจานเพื่อกันลื่น
6. เหตุเกิดที่เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง แม้จะอยู่ในบ้าน แต่เก้าอี้ โต๊ะ หรือตู้ ก็อาจเป็นสาเหตุให้เราประสบอุบัติเหตุได้หากไม่ระวัง เช่น ชนขาโต๊ะ ชนตู้ การจัดเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นระเบียบและมีเท่าที่จำเป็นก็จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้ทางหนึ่ง
6.1 ตู้ลอย ส่วนมุมหรือขอบควรเป็นชั้นวางโค้งแบบโปร่ง ๆ หรือเว้นตู้ลอยในส่วนนี้ไว้ 6.2 ท็อปกระจกโต๊ะกลางไร้ขอบ บ้านที่มีเด็กเล็กไม่ควรใช้โต๊ะกลางที่มีท็อปเป็นกระจกไร้ขอบหากที่บ้านมีพื้นที่แคบจริง ๆ อยากเลือกใช้กระจกท็อปกระจก ขอให้เลือกแบบมีขอบจะดีกว่า 6.3 ขาตู้ ขาเก้าอี้โยก พื้นที่แคบ ๆ ไม่ควรใช้เฟอร์นิเจอร์ขาโปร่งหรือโยกได้ 6.4 พรม ปูพรมหรือเสื่อเฉพาะส่วนที่มีการใช้งานบ่อย ๆ เช่น ส่วนนั่งเล่น จะช่วยกันของตกกระแทกพื้นและกันลื่นด้วย
7.เหตุเกิดที่หน้าต่าง นอกจากเป็นช่องให้แสงและลมเข้าสู่ภายในบ้านแล้ว หน้าต่างยังเป็นจุดอันตรายจุดหนึ่งในบ้านเลยทีเดียว โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็ก บางครั้งอาจเผลอชนจนตกลงไป หรือบางครั้งหากเกิดลมแรง ๆ ก็อาจพัดให้หน้าต่างเปิด-ปิด ก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่นกัน
7.1 ราวกันตก สำหรับหน้าต่างบานเลื่อนหรือบานเปิดเต็มถึงพื้นของบ้านชั้นสองขึ้นไป ควรกั้นราวกันตกให้สูงสักประมาณ 90-11 เซนติเมตรเพื่อความปลอดภัย 7.2 กันชนหน้าต่าง กันชนยางหรือแม่เหล็กช่วยป้องกันบานเลื่อนกระแทกกับวงกบได้ โดยหากเลื่อนเปิด-ปิดแรง ๆ คงติดตั้งวันหยุดไว้ในวงกบด้วย 7.3 ตัวล็อก หน้าต่างบานกระทุ้งหรือบานเปิดควรติดตัวล็อกไว้ทุกบาน ไม่อย่างนั้นหากเกิดลมแรงก็อาจมีโอกาสตีหน้าต่างให้กระแทกกับวงกบแรง ๆ จนเกิดความเสียหายได้
8. เหตุเกิดที่ทางเข้าบ้าน ส่วนเดินผ่านเข้า-ออกระหว่างในบ้านกับนอกบ้านมักเป็นพื้นต่างระดับ และพื้นนอกบ้านอาจมีน้ำขังเฉอะแฉะได้ ทั้งจากน้ำฝนและน้ำกับโคลนที่ติดมากับรองเท้า จึงควรระมัดระวังเส้นทางสัญจรหลักเข้าสู่ตัวบ้านนี้ให้ดี