จัดการกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในภาวะน้ำท่วม

28 ธ.ค. 2555

จัดการกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในภาวะน้ำท่วม

ท่านใดที่ต้องประสบพบเจอกระแสน้ำที่มาถึงบ้านโดยไม่ได้คาดการณ์ไว้ หรือคาดไม่ถึงว่ามันจะทะลักเข้ามาถึงบ้านเราได้นั้น ขอให้ท่านๆตระหนักไว้เป็นสิ่งแรกว่า สิ่งของใดก็ไม่สำคัญเท่าชีวิต สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับต้นเลยคือ ป้องกันอันตรายจากชีวิตไว้ก่อน หากไม่สามารถหนีจากจุดที่ประสบภัยได้ในขณะนั้นจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม และจำเป็นต้องอาศัยอยู่ในเคหะสถานของท่านเป็นการชั่วคราว ขอให้ทุกท่านจัดการกับเครื่องใช้ไฟฟ้าก่อนเป็นอันดับแรก

ลองพิจารณาตามความเป็นจริงว่า ในบ้านเรานั้นมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นทั้งชิ้นเล็กยกคนเดียวได้ ชิ้นกลางๆยก 2 คนไหว และชิ้นใหญ่ที่ต้องใช้หลายคนยก และสวิทซ์ไฟอันเป็นอุปกรณ์ที่คัญ และอันตรายที่สุด

เมื่อ "น้ำมาถึง" สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ยกสะพานไฟในบ้านให้เร็วที่สุด หรือที่หลายคนเรียกว่าคัตเอาท์ ทั้งนี้ เพื่อตัดกระแสไฟในบ้านทุกจุด ไม่ว่าจะในกรณีที่บ้านท่านมีเซฟที คัท หรือไม่ก็ตาม จงอย่าได้ชะล่าใจว่า “ไม่เป็นไรบ้านเรามีเซฟที คัท ตัดก่อนตาย เตือนก่อนวายวอด” เพราะถึงเวลานั้นอุปกรณ์ชิ้นไหนก็ช่วยคุณได้ไม่ดีที่สุดเท่าตัวคุณเอง

จากนั้นค่อยๆทยอยขนย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นที่เล็กที่สุด ขึ้นไปอยู่บนชั้นที่เราคิดว่าน้ำน่าจะท่วมไม่ถึง แล้วค่อยทยอยนำของชิ้นใหญ่ขึ้นตามไป ในกรณีนี้อย่าลืมเสบียงอาหาร และยารักษาโรคด้วย สำหรับคนที่มีบ้าน 3-4 ชั้น ไม่ต้องวิ่งขึ้นชั้น 4 ในครั้งเดียว ค่อยๆทยอยขึ้นไปทีละชั้นดีกว่า ไม่อย่างนั้นคุณจะเหนื่อยหอบก่อนที่จะสามารถขนของได้หมด เทคนิคอีกข้อหนึ่งที่ควรทราบคือ เครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างแม้เปียกน้ำแล้วก็ยังสามารถซ่อมแซมนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ฉะนั้นเลือกที่จำเป็นจริงๆ

ทำความเข้าใจอีกนิด เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีโครงสร้างภายนอกเป็นโลหะ เช่น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เตารีด ปั๊มน้ำ สว่าน เป็นต้น ซึ่งเมื่อถูกน้ำจะเป็นตัวนำไฟฟ้าได้ดี ขอให้ระวังให้มาก

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดที่มีคุณสมบัติทนต่อน้ำท่วม โดยจะมีค่ามาตรฐานสากล สังเกตได้จากรหัส IP ที่ติดไว้ด้านข้างเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยแสดงด้วยตัวเลขสองหลัก ตัวเลขหลักแรก บอกการป้องกันการกระแทกจากของแข็ง ตัวเลขหลักที่สองบอกการป้องกันของเหลว เช่น น้ำ หากตัวเลขสองหลักมีค่าสูงสามารถ ป้องกันฝุ่นละอองได้ ตัวอย่างเช่น IP56 สามารถป้องกันของแข็งได้ระดับ 5 และสามารถป้องกันน้ำได้ระดับ 6 ซึ่งเป็นค่ามากที่สุด ทนทานต่อความเค็มของน้ำทะเล แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีบริเวณความชื้นมากและควรระมัดระวังมากคือ เครื่องปั๊มน้ำ เครื่องซักผ้า ตู้กดน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น ห้ามใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่โดนน้ำท่วมมาแล้วและยังไม่ผ่านการตรวจเช็ค

วิธีการยก-ย้าย เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละประเภท ขอเน้นที่ของหนักต้องยก 2 คน อาทิ โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ควรยกที่ด้านข้างคนอย่างระมัดระวัง ไม่ควรวางนอนหรือเอียงเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งขณะยกและวาง และหากที่บ้านท่านมีตู้ปลา หรือบ่อปลาอย่าลืมสำรวจปั๊มน้ำด้วย

และเมื่อเหตุการณ์น้ำท่วมผ่านพ้นไป แน่นอนที่หลายบ้านจะต้องมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่โดนน้ำท่วม หรือน้ำเข้า ซึ่งเราจำเป็นต้องรู้ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ จะมีมอเตอร์และเครื่องจักรกลต่างๆ เมื่อโดนน้ำจะมีความชื้นอยู่ ซึ่งเป็นอันตรายมาก ฉะนั้นเราต้องวิธีใช้และตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้น ต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าอยู่ในสภาพที่ยังใช้การได้อยู่หรือไม่ สิ่งแรกต้องทำคือทิ้งเอาไว้ให้แห้งสนิทจริงๆ ทำให้แห้งก่อนที่จะเสียบปลั๊ก บางส่วนถอดออกได้ก็ควรเปิดออกมาตากลมให้แห้งก่อน เมื่อแน่ใจว่าแห้งแล้ว ก็ลองเปิดเครื่องดู ถ้ามีความผิดปกติก็ควรดับเครื่องทันที

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้านหลังน้ำท่วม ทำได้ง่ายๆโดยเปิดคัทเอาท์ให้ไฟเข้าระบบ ถ้าส่วนใดยังชื้นอยู่คัทเอาท์จะตัดฟิวส์จะขาด ให้เอาคัทเอาท์ลงแล้วทิ้งไว้ประมาณ 1 วัน จากนั้นเปลี่ยนฟิวส์ แล้วลองเปิดใหม่ ถ้ายังตัดอีกต้องตามช่างไฟฟ้ามาตรวจดู

หากสับคัทเอาท์แล้วฟิวส์ไม่ขาดก็อย่างเพิ่งนอนใจ เพราะบางทีก็มีการรั้วของกระแสไฟแต่เป็นไปในปริมาณน้อย ให้ใช้ไขควงชนิดตรวจกระแสไฟโดยเฉพาะ ตรวจตามจุดต่างๆ จากนั้นดับไฟฟ้าทุกดวง ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด แต่ไม่ต้องยกคัทเอาท์ขึ้น แล้วเช็ดดูที่มิเตอร์ว่ามีหมุนของหม้อแปลงไฟหรือไม่ ถ้าม ีแปลว่าในบ้านของคุณมีกระแสไฟฟ้ารั่วอยู่ ควรเรียกช่างไฟฟ้ามาตรวจดูอีกครั้ง

แหล่งที่มา : thaicontractor.com

จำนวนคนอ่าน : 12942 คน