|
เลือก "เตา" อย่างไรให้ใช้งานได้ดี เตาเป็นอุปกรณ์สำคัญในครัว โดยเฉพาะครัวที่ใช้การปรุงอาหารจริงจัง ทุกวันนี้มีเตาให้เลือกหลากหลายแบบตามแต่สะดวก แต่ละแบบมีข้อดีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน วันนี้ Homedecorthai จะเล่าให้ฟังค่ะ

"เตาแก๊ส" เป็นเตาหุงต้มคู่ครัวไทย-จีน เพราะให้ความร้อนสูงจึงตอบโจทย์การทำอาหารไทยและจีนที่ ต้องอาศัยไฟแรงได้ เพื่อความปลอดภัยควรติดตั้งหัวปรับความดันแก๊สให้เหมาะกับการใช้งาน และควรมีพื้นที่นอกบ้านสำหรับวางถังแก๊ส หรือทำช่องเก็บถังแก๊สและต่อสายจากเตาโยงออกไปถึงถังแก๊ส เพื่อความสะดวกและปลอดภัย

"เตาไฟฟ้า" เหมาะสำหรับการปรุงอาหารแบบเบาๆ ใช้คู่กับหม้อหรือกระทะก้นแบน เป็นเตาที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถออกแบบให้กลมกลืนกับครัวสมัยใหม่ เช็ดทำความสะอาดง่าย และมีความปลอดภัยมากกว่าเตาแก๊ส ปัจจุบันเตาไฟฟ้ามีหลายแบบ ซึ่งมีรายละเอียดและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน
? เตาเพลตไฟฟ้า (Hot Plate หรือ Solid Plate) เป็นเตาไฟฟ้ารุ่นแรกๆ ราคาประหยัด ทำความร้อนด้วยขดลวดที่อยู่ภายใต้แผ่นสีดำ ซึ่งอาจเป็นแผนเซรามิก แผ่นหินทนความร้อน หรือแผ่นโลหะ ให้ความร้อนค่อนข้างช้า ตอบสนองการปรับอุณหภูมิช้า เพราะต้องผ่านตัวกลางหลายตัว ก่อนทำอาหารต้องใช้เวลารอให้เตาร้อนระดับหนึ่งเสียก่อน เตาประเภทนี้กินไฟมาก เพื่อความประหยัดควรปิดไฟก่อนปรุงอาหารเสร็จ เพราะเตาจะยังคงมีความร้อนอยู่

?เตาแม่เหล็กไฟฟ้า (Induction) ภายในเตามีขดลวดเป็นตัวให้กำเนิดสนามแม่เหล็ก เมื่อเปิดสวิตช์ วางภาชนะที่เป็นโลหะบนเตาให้ตัดกับสนามแม่เหล็ก ก็จะทำให้เกิดความร้อนที่ก้นภาชนะอย่างรวดเร็ว เกิดการสูญเสียความร้อนน้อยจึงช่วยประหยัดไฟได้มาก แต่มีข้อด้อยคือ เพื่อให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัย จำเป็นต้องใช้ภาชนะที่ระบุว่าสำหรับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าโดยเฉพาะ และมีราคาค่อนข้างสูงกว่าเตาชนิดอื่นอีกด้วย

?เตาไฟฟ้าเซรามิก (Ceramic Hob) มีหน้าเตาเป็นแผ่นเซรามิกซึ่งทนความร้อนสูง ทนแรงกระแทกได้ดี ตัวกำเนิดความร้อนข้างในเป็นขดลวดไฟฟ้า หรือหลอดอินฟราเรด หรือฮาโลเจน จุดเด่นคือ สวย สามารถติดตั้งให้หน้าเตาเรียบเสมอกับหน้าโต๊ะได้ ลักษณะคล้ายเตาแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งใช้กระจกชนิดเดียวกัน แต่เตาเซรามิกจะมีวงสีแดงแสดงบริเวณที่มีความร้อน นอกจากนี้เตาเซรามิกจะสามารถใช้กับภาชนะก้นแบนทุกชนิด ขณะที่เตาแม่เหล็กไฟฟ้าต้องใช้ภาชนะที่ระบุเท่านั้น

เลือก "เครื่องดูดควัน" อย่างไรให้เหมาะกับเตา หลักง่ายๆในการเลือกเครื่องดูดควันคือ เลือกให้มีขนาดใหญ่กว่าเตาเพื่อให้ครอบคลุมควันที่จะเกิดจากการทำอาหารได้ทั้งหมด นอกจากนี้เครื่องดูดควันแต่ละรุ่นมีอัตราการใช้ไฟฟ้าต่างกันไปตามกำลังแรงดูด จึงควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน เพื่อให้อุปกรณ์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
?เครื่องดูดควันแบบมาตรฐาน มีกำลังการดูดน้อย คือประมาณ 480 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง มีรูปแบบเรียบง่าย ควรติดตั้งไว้ใต้ตู้ลอย

?เครื่องดูดควันแบบกระโจม ติดตั้งบนผนัง เหมาะกับครัวที่มีพื้นที่ปรุงอาหารติดผนัง มีประสิทธิภาพในการดูดควัน ประมาณ 800 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง

?เครื่องดูดควันแบบแขวนกลางห้อง เหมาะกับชุดเครื่องครัวสมัยใหม่ที่ออกแบบพื้นที่ปรุงอาหารไว้กลางห้อง ช่วยให้พื้นที่ส่วนนี้สวยเด่น มีประสิทธิภาพในการดูดควัน ประมาณ 800 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง

?เครื่องดูดควันแบบฝังเฟอร์นิเจอร์ (Built-in Hood) เหมาะกับการออกแบบครัวที่ต้องการซ้อนเครื่องดูดควัน มักใช้กับครัวสไตล์คลาสสิกร่วมสมัย มีประสิทธิภาพในการดูดควันสูงถึง 1600 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
 
|