/home/homedecor/domains/www1.homedecorthai.com/public_html/templates/default/ext/ui/article_detail.tpl.php ล้างแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ
 
 
    
   
     
     
   
 

ล้างแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ

19 ก.ย. 2554

ล้างแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ

การดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าไฟ และยังส่งผลดีต่อสุขภาพของเราอีกด้วย การตรวจเช็คสภาพเครื่องปรับอากาศครั้งใหญ่ (ทั้งส่วนทำความเย็นภายในและชุดระบายความร้อนที่ตั้งอยู่ภายนอกห้อง) จึงควรทำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งโดยช่างผู้ชำนาญ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศให้ยาวนานยิ่งขึ้น

 

ขั้นตอนการตรวจเช็คสภาพเครื่องปรับอากาศครั้งใหญ่โดยช่างผู้ชำนาญ

 

1. เพื่อความปลอดภัย ก่อนล้างเครื่องปรับอากศทุกครั้ง ช่างจะต้องปิดแอร์และปิดเมนสวิตซ์ ซึ่งเป็นตัวจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับเครื่องปรับอากาศ

2. ถอดตะแกรงด้านหน้า ฝาครอบ แผ่นควบคุมทิศทางลม และแผ่นกรองอากาศของคอยล์เย็นหรือส่วนทำความเย็น (Fan Coil Unit) ที่อยู่ภายในห้องเพื่อนำไปขัดล้างทำความสะอาด หากสกปรกมาก ๆ ช่างจะใช้น้ำผสมกับน้ำยาทำความสะอาดฉีดล้างออกด้วยเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง จากนั้นใช้เครื่องเป่าลมเป่าให้แห้งพอหมาด ๆ ก่อนนำไปผึ่งลมในที่ร่มให้แห้งสนิท

3. กรณีที่เป็นเครื่องปรับอากศรุ่นที่มีแผ่นกรองอากศแบบใยสังเคราะห์ ไส้กรองฝุ่นแบบละเอียด หรือแผ่นดูดซับกลิ่นติดอยู่กับแผ่นกรองอากาศ จะไม่สามารถใช้น้ำยาล้างทำความสะอาดได้ เพราะอุปกรณ์ดังกล่าวอาจชำรุดหรือเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร ดังนั้นช่างต้เองถอดออกมาแล้วใช้แปรงขนอ่อนปัดทำความสะอาด แล้วใช้เครื่องเป่าลมให้สะอาดอีกครั้ง

4. หลังจากถอดตะแกรงแล้วและฝาครอบของคอยล์เย็นออกแล้ว ช่างจะล้าง ครีบระบายความเย็นของแผงคอยล์เย็นด้วยน้ำสะอาด หรือถ้าสกปรกมากจะใช้น้ำผสมกับน้ำยาแล้วฉีดล้างด้วยเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง แต่ในกรณีที่ไม่สามารถใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ช่างอาจเลือกใช้น้ำยาแบบสเปรย์ฉีดล้างทำความสะอาดแทนได้

5. กรณีที่เป็นเครื่องรุ่นที่มีอุปกรณ์ดักจับฝุ่นแบบใช้ไฟฟ้าติดอยู่กับคอยล์เย็น ช่างจะถอดออกมาทำความสะอาดด้วยแปรงขนอ่อนก่อนจะล้างคอยล์เย็นเพื่อป้องกันอุปกรณ์ชำรุดเสียหาย

 

 

6. ถอดใบพัดลม โครงพัดลม ถาดน้ำทิ้ง และมอเตอร์ ออกจากคอยล์เย็น (กรณีที่เป็นเครื่องแบบติดผนัง ช่างจะถอดเฉพาะใบพัดลมออกเท่านั้น โครงพัดลมและมอเตอร์ยังติดอยู่กับแผงคอยล์เย็น) จากนั้นช่างจะนำแผ่นพลาสติกมาหุ้มป้องกันมอเตอร์ให้มิดชิดเพื่อกันน้ำเข้า แล้วจึงถอดแยกโครงพัดลมออกจากใบพัด เพื่อสามารถฉีดล้างทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง   และใช้เครื่องเป่าลมเป่าให้แก้งก่อนนำไปตากในที่ร่ม

7. อุปกรณ์หรือชิ้นล่วนของคอยล์เย็นที่ไม่สามารถใช้น้ำฉีดล้างทำความสะอาดได้ ช่างจะใช้ผ้าแห้งเช็ดแทน และต้องดูดหรือเป่าทำความสะอาดท่อน้ำทิ้งของคอยล์เย็นทุกครั้งที่ล้างแอร์

8. ในส่วนของคอยล์ร้อน (condersing Unit) หรือส่วนของเครื่องที่อยูภายนอกห้อง ช่างจะถอดโครงเครื่องออก และนำแผ่นพลาสติกมาหุ้มป้องกันมอเตอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้าให้มิดชิดเพื่อกันน้ำเข้า จากนั้นก็ล้างทำความสะอาดใบพัดลม ครีบระบายความร้อนของแผงคอยล์ร้อนและโครงเครื่องให้ทั่วถึง หากมีคราบสกปรกฝังแน่น อาทิ มีผุ่นผงและตะกอนติดค้างอยู่ ก็จะใช้น้ำผสมกับน้ำยาฉีดล้างด้วยเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง

9. ภายหลังจากการเช็ดล้างทำความสะอาดและผึ่งอุปกรณ์ทุกชิ้นส่วนแห้งดีแล้ว ช่างจะประกอบชิ้นส่วนเข้าที่เดิมและทดสอบการทำงานเครื่องเพื่อตรวจสอบระบบต่าง ๆ รวมถึงเสียงและการสั่นสะเทือนที่เกิดจากชิ้นส่วนอุปกรณ์ประกอบไม่แน่นหรือเกิดการชำรุดตามสภาพการใช้งาน หากมีอุปกรณ์เสียหายช่างต้องแจ้งให้ทราบ และควรตกลงราคาก่อนจะซ่อมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ชำรุดทุกครั้ง

10. ตรวจเช็คระบบน้ำยาทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ โดยใช้เครื่องวัดแรงดันน้ำยาติดเข้ากับท่อน้ำยาทำความเย็นของแอร์โดยปกติระบบท่อน้ำยาทำความเย็นของแอร์ ที่ติดตั้งอย่างถูกต้องและได้มาตรฐานไม่จำเป็นต้องเติมน้ำยาทำความเย็นอีกเลยตลอดอายุการใช้งาน ยกเว้นเกิดการรั่วซึมทำให้น้ำยารั่งไหลออกจากระบบ จึงจำเป็นต้องให้ช่างหาจุดที่รั่วซึมให้พบและซ่อมแซมให้เรียบร้อยก่อนเติมน้ำยาทำความเย็นเข้าไปใหม่

11. ตรวจเช็คระบบไฟฟ้า โดยวัดแรงดันและกระแสไฟฟ้าของแอร์เทียบกับค่ามาตรฐานจากโรงงานผู้ผลิตแอร์ที่ได้กำหนดไว้ และเมื่อวัดค่าการใช้ไฟฟ้าก่อนตรวจสภาพแอร์ครั้งใหญ่เทียบกับค่าที่ได้หลังการล้าง   เราจะพบว่าสามารถช่วยประหยัดค่าฟ้าได้ประมาณ 10 – 15 เปอร์เซ็นต์

12. ภายหลังการล้างแอร์ บ่อยครั้งมักเกิดน้ำหยดหรือรั่วออกมาจากแผงคอยล์เย็น เพราะช่างอาจหลงลืมทำความสะอาดท่อน้ำทิ้ง ทำให้เกิดความเสียหายได้ หรือเกิดเสียงจากการสั่นของแอร์เนื่องมาจากการประกอบชิ้นส่วนไม่ดี ดังนั้น จึงควรตรวจเช็คในจุดต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้วให้แน่ใจก่อนช่างจะจากไป

 

 


แหล่งที่มา : www.smallhouse.co.th
จำนวนคนอ่าน : 23453 คน

บทความที่ใกล้เคียงกัน :

 

หินขัด หินล้าง ทรายล้าง คอนกรีตพิมพ์ลาย

วิธีการดูแลรักษาบ้านไม้

30 มิ.ย. 2554
วิธีการดูแลรักษาบ้านไม้

ไม้ เป็นวัสดุธรรมชาติที่อยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์มาช้านาน เรานำไม้มาใช้ประโยชน์ในการปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะทำเป็นบ้านทั้งหลังหรือเป็นส่วนประกอบต่างๆในการตกแต่ง แต่ด้วยความเป็นธรรมชาติของไม้ ทำให้เราต้องดูแลรักษาเนื้อไม้เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานด้วย วันนี้ homedecorthai มีวิธีดูแลรักษาบ้านไม้ในส่วนต่างๆ ของบ้านคุณกันค่ะ    Read more

วิธีการดูแลบ้านให้ดูดี

29 มิ.ย. 2554
วิธีการดูแลบ้านให้ดูดี

บ้านต้องมีการดูแลรักษาบ้านจึงจะคงความหมายได้สมบูรณ์ที่สุด คือ เป็นที่พักพิงอันอบอุ่นและเป็นที่พักใจอันเหนื่อยล้าการเรียนรู้ที่จะรักษาดูแลบ้านเพื่อชะลอการเสื่อมสภาพ รวมทั้งประหยัดเงินด้วย จึงเป็นเรื่องที่ผู้เป็นเจ้าของบ้านควรใส่ใจเป็นพิเศษ     Read more

วิธีการเช็ดกระจกให้ใสปิ๊ง

28 มิ.ย. 2554
วิธีการเช็ดกระจกให้ใสปิ๊ง

คราบฝุ่น รอยฝ้าต่างๆ ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจที่ทำให้กระจกบ้านคุณมัวหมองได้ ซึ่งงานนี้เรามีเคล็ดลับการจำกัดคราบสกปรกและเช็ดกระจกให้ใสปิ๊งมาฝากกันค่ะ    Read more

โทรทัศน์ใช้อย่างไรให้ประหยัดไฟ

23 มิ.ย. 2554
โทรทัศน์ใช้อย่างไรให้ประหยัดไฟ

ปัจจุบันโทรทัศน์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เข้ามามีบทบาทต่อประชาชนเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกบ้านเรือนไปแล้ว ดังนั้น วิธีใช้เครื่องรับโทรทัศน์ให้ประหยัด คือการรปิดเครื่องทุกครั้งที่ไม่มีคนดูและควรดึงปลั๊กออกทุกครั้งหลังจากปิดสวิตซ์    Read more

การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านให้ปลอดภัย

23 มิ.ย. 2554
การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านให้ปลอดภัย

การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัยนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะชีวิตประจำวันของเราต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นประจำ ดังนั้นเพื่อนๆ ควรทราบวิธีใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัยก่อนการใช้งานทุกครั้งhomedecorจึงนำวิธีง่ายๆ ที่จะทำให้การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณปลอดภัยมาแนะนำ    Read more
Topics 211 - 215 of 226