/home/homedecor/domains/www1.homedecorthai.com/public_html/templates/default/ext/ui/article_detail.tpl.php
ผนังบ้าน กับ โฟมกันร้อน
เราได้อ่านเจอเรื่อง โฟมกันร้อน ใช้พ่นกับผนังบ้าน มันเป็นความรู้ใหม่สำหรับเรามากๆ เราเลยอยากนำมาบอกกับเพื่อนๆ เพื่อที่บางคนกำลังคิดสร้างบ้าน อาจจะใช้โพมกันความร้อนนี้ไปใช้กับบ้านของคุณเองก็ได้ เพราะอากาศบ้านเราร้อนมาก จึงทำให้บ้านเราร้อนมากไปด้วย และเมื่อเรารู้สึกร้อนมากๆ ก็จะทำให้สุขภาพจิตไม่ดี ดั้งนั้น โฟมกันร้อน ก็มีประโยชน์พอสมควรสำหรับอาคาร บ้านเรือน
คุณสมบัติของโฟมกันความร้อน จะช่วยบล๊อคความร้อนได้เป็นอย่างดี ช่วยกันร้อนจาก ภาวะที่อุณหภูมิสูงขึ้น โดยทั่วไปอาคารที่ก่อสร้างด้วยปูนหรือคอนกรีตจะดูดซับเก็บความร้อนได้ดี ถึงแม้จะเป็นในเวลากลางคืน ก็อาจทำให้อุณภูมิภายในอาคารร้อนอบอ้าวได้ ทั้งนี้เป็นเพราะในช่วงเวลากลางวันแสงแดดจัดส่องลงมา หลังคา ผนังอาคารที่โดนแสงอาทิตย์เป็นเวลานานก็จะดูด ซับเอาความร้อนมาเก็บไว้ และปล่อยรังสีความร้อนจากแสงอาทิตย์ออกมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จึงทำให้อากาศร้อน การเลือกใช้โฟมกันความร้อนหรือโฟมกันร้อนต้องดูลักษณะของพื้นที่และอาคาร นั้นๆว่าเป็นอาคารประเภทใด มีพื้นทีเท่าใด สมควรใช้วัสดุโฟมกันความร้อนหรือโฟมกันร้อนแบบใดจึงจะเหมาะสม และมีประสิทธิภาพมากที่สุดประหยัดงบประมาณค่าใช้จ่ายมากที่สุด ประการสำคัญคือสามารถลดความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในการใช้เทคโนโลยี่โฟมกันความร้อนนี้เป็นที่นิยมของนานาประเทศทั่วโลก เพราะนอกจากป้องกันความร้อนได้แล้ว ผลพลอยได้ที่ตรงจุดมากที่สุดก็คือช่วยลดค่าใช้จ่ายในเรื่องค่ากระแสไฟฟ้าของ หน่วยงานหรือองค์กรต่างๆได้อย่างมากมายในแต่ละปี โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ถ้าต้องการประหยัดค่าไฟฟ้าต้องใช้ฉนวนกันความร้อนหรือโฟมกันร้อน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าในแต่ละปีได้อย่างมากและเป็น ผลดีในระยะยาว ประเภทลงทุนครั้งเดียว แต่ได้ประโยชน์หลายๆ ด้านในเวลาเดียวกัน ด้วยระบบโฟมกันความร้อนหรือโฟมกันร้อนจะช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจในด้าน อนุรักษ์พลังงาน ประหยัดพลังงาน ได้เป็นอย่างดี
ประเภทของโฟมกันร้อนหรือโฟมกันความร้อน วันนี้ จึงเป็นโอกาสดีของผู้ประกอบการเจ้าของอาคาร บ้านเรือนที่อยู่อาศัยจะช่วยทั้งลดภาวะความร้อนภายในอาคารสำนักงานหรือโรง งานลง ในขณะเดียวกันก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องกระแสไฟฟ้าในแต่ละเดือน โฟมกันความร้อนหรือโฟมกันร้อนช่วยท่านได้ในเรื่องประหยัดพลังงานไฟฟ้าอย่าง แน่นอนและมีประสิทธิภาพ
1. โฟมโพลียูรีเทน ( Polyurethane Foam)
2. โฟมโพลีสไตรีน ( Polystyrene Foam)
3. โฟมชนิดยืดหยุ่น ( Elastomeric Foam )
เป็นฉนวนประเภทที่เอาเม็ดโฟมขนาดเล็ก ๆ มาอัดเข้าด้วยกัน (Inter connecting Cell In) ทำให้มีช่องว่างระหว่างเม็ดโฟมแทรกอยู่บ้างดังนั้น โฟมโพลีสไตรีน จึงไม่สามารถกันความชื้นได้ 100%