ฉนวนกันความร้อน

25 ส.ค. 2554

ฉนวนกันความร้อน

เมืองไทยเป็นเมืองที่ค่อนข้างร้อน และรู้สึกว่าจะร้อนเพิ่มมากขึ้นทุกปี วันนี้ Homedecorthai จึงนำเรื่อง "ฉนวนกันความร้อน" มาฝากเพื่อนๆ เพื่อที่เวลาที่เราสร้างบ้านเราจะได้ติดตั้งฉนวนกันความร้อนให้กับบ้านของเรา แต่ก่อนที่คุณจะติดตั้งฉนวนกันความร้อน คุณทราบดีหรือยังว่า ฉนวนกันความร้อนคืออะไร แล้วมีกี่ชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติอย่างไร หรือเหมาะสมกับการใช้งานชนิดไหน เรามาดูกันเลย

ฉนวนกันความร้อน คือ

วัสดุที่ต้านทาน และป้องกันความร้อนที่ส่งผ่านมาจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งได้สะดวก ฉนวนกันความร้อนที่ดีต้องมีน้ำหนักเบา และต้องมีคุณสมบัติในการต้านทานความร้อนได้ดี ไม่ใช่การนำพาความร้อน

สำหรับในปัจจุบันผู้คนนิยมนำแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ มาใช้เป็นฉนวนกันความร้อน แต่ที่จริงแล้วแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ไม่ถือว่าเป็นฉนวน แต่เป็นถือว่าเป็นวัสดุลดความร้อน จากรังสีความร้อนเท่านั้น

ชนิดของ ฉนวนกันความร้อน

1. ฉนวนชนิดโฟมฉีด หรือ โพรียูรีเทน

ฉนวนชนิดนี้จะทนความร้อนได้ถึง 100 องศาเซลเซียส ฉนวนแบบโฟมนี้ จะเป็นของเหลวที่บรรจุอยู่ในถัง ใช่ฉีดระหว่างฝาผนังบ้านที่ก่ออิฐ 2 ชั้น หรือ ฝาผนังบ้านที่เป็นไม้ 2 ชั้น ฉนวนชนิดนี้จะนิยมกันมากในต่างประเทศ แต่สำหรับประเทศไทยไม่ค่อยนิยมกันมากนัก เพราะมีราคาแพง ส่วนใหญ่เราจะพบเห็นฉนวนชนิดนี้ได้จากเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ผนังตู้เย็น

2. ฉนวนชนิดโฟมแผ่น หรือ โพลีสไตลีน

ฉนวนชนิดนี้ จะทนอุณหภูมิได้ 85 องศาเซลเซียส และมีความหนาบางแตกต่างกัน มีน้ำหนักเบา แต่ไม่เป็นที่นิยมถึงแม้ว่าจะทนความร้อนได้ แต่ก็ติดไฟได้ง่าย และเสื่อมสภาพได้ง่ายอีกด้วย จึงไม่เหมาะกับการใช่งาน

3. ฉนวนใยแก้ว (Glass Wool)

เป็นฉนวนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบ้านเรา ฉนวนใยแก้วประกอบขึ้นด้วย เส้นใยแก้วจำนวนมาก และยังมีคุณสมบัติ ต้านทานต่อกรด, ด่าง และยังทนต่อการกัดกร่อนของสารต่างๆ เป็นอย่างดี

ส่วนใหญ่แล้ว เขาจะใช่ฉนวนใยแก้วกับ อาคาร, สำนักงาน หรือบ้านพักอาศัย ฉนวนใยแก้วสามารถทนความร้อนได้สูงสุดถึง 350 องศาเซลเซียส คุณสามารถนำไปบุ หลังคาบ้าน, บนฝ้าเพดาน หรือผนังบ้านก็ได้

- ฉนวนกันความร้อนแต่ละชนิด ก็มีคุณสมบัติในการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้นในการใช้งานแต่ละอย่าง คุณควรศึกษาให้ดีก่อนใช้ แต่สำหรับ Homedecorthai ใช้ฉนวนแบบโพมบริเวณหลังคา และใช้ฉนวนกันความร้อนแบบใยแก้ว ในบริเวณห้องที่ติดแอร์บางห้องเท่านั้น เพื่อนๆ ก็ลองเลือกใช้กันดูนะ

แหล่งที่มา : homebaan.blogspot.com

จำนวนคนอ่าน : 15110 คน