เสน่ห์เรือนไทย ไลฟ์สไตล์แบบร่วมสมัย
16 มิ.ย. 2554
เรายกให้เขาเป็น " มหัศจรรย์แมน"ผู้ชายที่ทำอะไรหลายอย่างในเวลาเดียวกัน เขาเป็นทั้งนักโฆษณา เปิดบริษัทรับสร้างแบรนด์ เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง ล่าสุดเขาหยิบเกียรตินิยมสถาปัตย์จุฬาฯมาปัดฝุ่น โชว์ฝีมือออกแบบและตกแต่งบ้านเรือนไทยร่วมสมัยสุดหรู ให้เป็นทั้งบ้านพักส่วนตัวและรีสอร์ทต้อนรับคนคอเดียวกัน
ณดล ไทยวิลล่า อาณาจักรนักเดินทาง
ย้อนกลับไปเมื่อสามปีที่แล้ว ซีอีโอนักสร้างแบรนด์คนนี้ คิดแค่ว่าอยากหามุมสงบ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เพื่อสร้างบ้านหลังเล็กๆให้เป็นสถานที่เบรคตัวเองจากความวุ่นวายในกรุง ตอนแม่เพื่อนพามาดูที่แปลงนี้ครั้งแรก ผมเห็นแล้วซื้อทันที เป็นพื้นที่สามไร่ขนานกับน้ำตก อยู่ระหว่างน้ำตกมวกเหล็กกับเจ็ดสาวน้อย โรแมนติกมาก ผมจินตนาการออกทันทีเลยว่าจะซื้อเรือนไทยมาปลูก ใฝ่ฝันอยากอยู่บ้านเรือนไทยมานานแล้ว ตระเวนหาเรือนไทยฝาปะกนภาคกลาง ตั้งแต่อยุธยา ชัยนาท นครสวรรค์ จนมาได้บ้านเก่าของชาวบ้าน ซื้อเหมาหมดเลย 5 หลัง
ทีแรกกะจะสร้างให้คุณพ่อคุณแม่อยู่หลังหนึ่ง เพื่อนฝูงอีกหลังหนึ่ง ออกแบบเป็นรูปตัวยู เห็นน้ำตกด้านหน้า เราเป็นคนชอบว่ายน้ำ ก็ทำสระว่ายน้ำตรงกลาง ต่อเติมห้องน้ำบนเรือนเพิ่ม มีอ่างอาบน้ำเป็นหินอ่อนสระบุรี เพราะเรือนไทยเดิมไม่มีห้องน้ำ สั่งกระเบื้องเกล็ดปลาโบราณมาทำหลังคา ใช้กระเบื้องดินเผาปูพื้นจากอ่างทอง ทุกห้องมีแอร์ ทีวีจอแบน ไม่ใช่ว่าอยู่เรือนไทยแล้วต้องลำบากเพราะฉะนั้นเราผสมผสานความเป็นอยู่แบบร่วมสมัยเข้ากับเรือนไทย ทำไปทำมาค่าใช้จ่ายสูง ไม่ว่าจะเป็นค่าคนสวน ค่าน้ำไฟ ไหนๆมีค่าใช้จ่ายแล้ว ทำเป็นธุรกิจเลยแล้วกัน
แต่ละห้องออกแบบตกแต่งไม่เหมือนกัน มีทั้งห้องหมิง สุโขทัย โคโลเนียล ชวา อินโดจีนฯลฯ เพื่อให้ผู้มาพักรู้สึกเหมือนอยู่บ้านที่เจ้าของบ้านเป็นนักเดินทาง เก็บเกี่ยวศิลปะหลากหลายจากเอเชียมาผสมผสาน เพราะคอนเซ็ปต์ของ ณ ดล คือ เรือนไทยแนบธารน้ำตก และที่ออกแบบโครงสร้างอย่างนี้ เพราะได้แรงบันดาลใจจากวัด ซึ่งมีทั้งงานไม้ งานปูน และงานปูนปั้น โดยนำโทนสีขาวผสมสีน้ำตาลของเรือนไทย เพื่อให้ดูซอฟท์ลง

เกือบร้อยล้านกับการเนรมิตภายใน 2 ปี
ไม่เคยทำบัญชีเลย ผมทำที่นี่ด้วยใจรัก พอทำแล้วงอกไปเรื่อย ถึงตอนนี้คงเกือบร้อยล้านแล้วมั้ง เพราะทำตั้งแต่เกลี่ยพื้นที่ ถางป่า ทำระบบน้ำบาดาล เดินสายไฟ เหมาช่างไม้เรือนไทยจากนครสวรรค์มาอยู่ที่นี่สองเดือน เพื่อต่อเรือนไทยด้วยสลักทั้งหมด ไม่มีการใช้ตะปู ผมเทียวไล้เทียวขื่อกรุงเทพฯ-สระบุรีทุกอาทิตย์ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าสารพัด แต่สนุก เพราะผมเป็นคนชอบความท้าทายและการผจญภัย
ของตกแต่งกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย เพราะผมสะสมวัตถุโบราณมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะ สิงโตจีนชอบอย่างแรง เวลาไปประชุมงานที่ต่างประเทศ ผมมักเหมาซื้อสิงโตหินมาเป็นคู่ หิ้วมาเองด้วย หนักมาก หรืออย่างต้นไม้ทุกต้นก็เลือกเอง อย่างดอกไม้หอมของไทยต้องปลูกใกล้เรือน จะได้กลิ่นหอมตอนกลางคืน ส่วนลีลาวดีปลูกเพื่อให้ดูไบรท์ เพราะดอกสีขาว บางทีเดินๆอยู่ หันกลับมามองสิ่งที่เราทำ รู้สึกแปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ทำทั้งหมดนี้เองคนเดียว เสร็จภายในสองปี ผมเป็นคนไฮเปอร์มาก คิดแล้ว ทำเลย ขณะที่บางคนทำผ่านไปสองปี ยังเป็นร่างอยู่บนแผ่นกระดาษก็มี
คุณแม่(คุณหญิงมาลัยวัลย์) มาพักยังตกใจ ทำขนาดนี้เลยเหรอ ตอนทำแรกๆไม่กล้าบอกคุณพ่อ (คุณเชิด) กลัวท่านห้าม จะดีเหรอ คิดดีแล้วเหรอ วันแรกที่ท่านมาเห็น คุณพ่อเป็นคนไม่ค่อยชม แต่ดูสีหน้าแล้วรู้ว่าท่านประทับใจ ตอนหลังท่านสนุกไปกับเรา เพราะท่านเป็นวิศวกร ช่วยออกแบบระบบรดน้ำต้นไม้ สร้างถนนลาดยาง ไปๆมาๆทั้งสองท่านชอบที่นี่ น้องชาย (คุณวิแมน) ก็ช่วยถ่ายภาพให้ผมทำแคตตาล็อก
Branscape & N Dol --ความเหมือนในวิถีแตกต่าง
ถ้าเปรียบเทียบระหว่างธุรกิจกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่เขาทำในชื่อ Brandscape กับธุรกิจรีสอร์ท เขาบอกว่าบรรยากาศการทำงานไม่แตกต่าง แต่วิถีแตกต่างกัน เพราะการทำธุรกิจรีสอร์ตสามารถนำตัวตนมาใช้ในงานออกแบบและตกแต่งได้เต็มที่ ขณะที่งานสร้างแบรนด์ต้องเข้าใจโจทย์ลูกค้าเป็นหลัก
ในโลกของโฆษณาและการสร้างแบรนด์ เราต้องใช้จินตนาการประยุกต์เข้ากับเหตุผล ทางการตลาด ส่วนบ้านไทยที่ผมสร้าง ใช้จินตนาการของตัวเองล้วนๆ แต่ทำแล้วมีความสุขทั้งสองอย่าง เคยมีคนพูดว่า ถ้าเราทำอะไรที่มีความสุข จะรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็ว และสนุกกับสิ่งที่ทำ เพราะเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้เรามีพลังสร้างสรรค์สิ่งใหม่ตลอดเวลา
ผมแฮปปี้กับ ณ ดล มาก อยากใช้ชีวิตที่นี่มากกว่าสัปดาห์ละสองวัน ชีวิตคนเราก็เหมือนการเล่นสนุกในงานเลี้ยง ที่ต้องเปิดโอกาสให้แก่งานเลี้ยงทุกงาน เอาให้สุดฤทธิ์ไปเลย แต่ผมไม่ลืมว่าชีวิตคนเราสั้น ถ้าตายไปเร็วๆนี้โดยไม่ได้สร้างสรรค์อะไรใหม่ คงเฉาแน่ ผมมีความสุขกับการสร้างสิ่งที่รักให้ออกมาเป็นรูปธรรม เช่น ออกอัลบั้มเพลง วาดรูป แสดงคอนเสิร์ต เป็นอาจารย์สอนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ทั้งหมดนี้เป็นตัวตนของเรา ถ้าเกิดเป็นอะไรไปตอนนี้ อย่างน้อยก็ถือว่าได้สร้างแล้วละ”

มองชีวิตให้เป็น นี่ละ...เคล็ดลับความสดใส
คงเพราะทำจิตใจให้เบิกบาน มองโลกในแง่บวก ไม่ค่อยชอบกินเนื้อสัตว์ใหญ่ ชอบกินผักกับปลามาก ผมกินผัดผักบุ้งไฟแดงได้ทุกมื้อ ถ้าโลกนี้ไม่มีอะไรกิน มีแต่ผักบุ้งไฟแดง ผมก็อยู่ได้ เป็นคนไม่เที่ยวกลางคืน ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า นอนให้ได้วันละ 7 ชั่วโมง ออกกำลังพอสมควร ผมชอบว่ายน้ำ เหนื่อยจากงานมาขนาดไหน ถ้าได้กระโดดลงน้ำ พักเดียวก็หาย บ้านผมทุกที่ถึงต้องมีสระว่ายน้ำ
นอกจากนั้นผมเป็นคนสวดมนต์ปฏิบัติธรรม คุณยายสอนให้สวดมนต์มาตั้งแต่เด็ก อ่านหนังสือธรรมะตลอด โดยเฉพาะหนังสือท่านว.วชิรเมธี ท่านใช้คำเปรียบเปรยเข้ากับยุคสมัย อ่านแล้วเข้าใจง่าย พอเราเข้าใจแก่น ก็สามารถนำมาประยุกต์ให้เข้ากับวิถีชีวิตประจำวันได้ โดยการไม่ยึดติด รู้จักปล่อยวาง และรู้ว่าอะไรมากระทบ แต่อย่าให้กระเทือน ถ้าเราปรุงแต่งทุกอย่าง เรื่องไม่เป็นเรื่องก็เป็นเรื่อง ธรรมะช่วยให้เห็นสัจธรรมและมีสติ ช่วยให้เราอยู่กับโลกใบใหญ่นี้ได้อย่างมีความสุข
บทสรุปสุดท้ายคุณดลชัยพูดถึงผลงานชิ้นนี้ว่า
“ยากกว่าทำบ้านสมัยใหม่เยอะ แต่เราคิดว่าคุ้มที่เลือกมาแบบนี้.. ผมคิดว่าณดลมีความพิเศษแต่ผมไม่ได้บอกว่ามันดีที่สุดนะ แต่ผมว่ามันมีความเป็นเอกลักษณ์ของมันเอง”