|
กรณีที่จะซื้อที่ดินพร้อมบ้านจัดสรรทาวน์เฮ้าส์ หรืออาคารพาณิชย์ ควรตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยว่า ผู้ประกอบธุรกิจหรือเจ้าของโครงการ ได้รับใบอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารแล้วหรือไม่ โดยตรวจสอบได้จากกรมโยธาธิการ หรือ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร หรือสำนักงานที่ดินจังหวัด แล้วแต่กรณี
6.ตรวจสอบที่ดินที่จะซื้อ ว่ามีภาระผูกพันกับนิติบุคคลหรือสถาบันการเงินใดหรือไม่ (มีการจำนองหรือขายฝากไว้กับผู้ใด) ตรวจสอบได้จาก กรมที่ดิน หรือสำนักงานที่ดินจังหวัด
7.ตรวจสอบระบบสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ เช่น ถนน น้ำประปา ไฟฟ้า ฯลฯ ว่าเจ้าของโครงการได้ดำเนินการไว้แล้วหรือไม่ อย่างไร ถ้าไม่ได้ดำเนินการให้สอบถามก่อนการทำสัญญา ว่าจะดำเนินการเมื่อใด แล้วเสร็จเมื่อใด โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจเขียนไว้ในสัญญา โดยตรวจสอบได้จากผู้ประกอบธุรกิจ และสถานที่ตั้งโครงการ
8.ก่อนลงนามในสัญญา ควรดูว่าสัญญานั้นเป็นธรรมหรือไม่ โดยตรวจดูว่ามีข้อความบ่งบอก ถึงหน้าที่ของผู้ประกอบธุรกิจหรือผู้ขายที่ต้องปฏิบัติด้วย เช่น กำหนดวันเริ่มต้นก่อสร้าง และวันที่คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ การกำหนดระยะเวลาขั้นตอนการก่อสร้าง เพื่อให้ผู้บริโภคได้ตรวจสอบการกำหนดวันโอนกรรมสิทธิ์ รวมถึงเอกสารเกี่ยวกับการโฆษณาของผู้ประกอบธุรกิจ ควรนำมาเป็นหลักฐานแนบท้ายสัญญาด้วย
9.ศึกษาสภาพแวดล้อมของโครงการ ตรวจสอบว่า ทางราชการมีโครงการที่จะดำเนินการใด ในบริเวณที่ดินนั้นหรือไม่ อาทิ ตรวจสอบแนวเวนคืน,ตรวจสอบผังเมืองว่าพื้นที่ดินบริเวณนั้นอยู่ในพื้นที่สี อะไร ซึ่งแต่ละสีจะกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินไว้,ตรวจสอบว่าบริเวณนั้นมีข้อห้าม ไม่ให้ดำเนินการก่อสร้างอาคารๆ หรือไม่ โดยสอบถามจาก กรมการผังเมือง หรือสำนักงานเขตที่โครงการจัดสรรตั้งอยู่ ในต่างจังหวัดสามารถตรวจสอบได้ที่เทศบาล หรือสำนักงานโยธาจังหวัด ที่โครงการจัดสรรตั้งอยู่
10.สถานที่ตั้งโครงการนั้น สะดวกต่อการเดินทางไปทำงานหรือไม่ ไม่มีมลภาวะ เช่น ฝุ่นละออง หรือเสียงรบกวนต่างๆ หรือมีน้ำท่วมขัง หรือไม่อยู่ใกล้กับโรงงาน ซึ่งอาจจะทำให้เดือดร้อนในภายหลัง
|