|
หากจะดูจากลักษณะของบ้านเรือนและความเป็นอยู่ของคนไทยแต่ในอดีต กับการมีบ้านแบบเรือนไทยแล้ว ส่วนนี้แทบจะหาไม่เจอเลย จะมีก็เป็นลักษณะคล้าย ๆ กันแต่ก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว เพราะคนไทยที่อยู่อาศัยกันในบ้านเรือนไทยแต่โบราณนั้น จะมีลานอเนกประสงค์ที่จะใช้ได้ทั้งเพื่อกิจกรรมส่วนบุคคลเฉพาะเจ้าของบ้าน หรือจะใช้เป็นส่วนสาธารณะ หมายถึงการรับแขกหรืออื่น ๆ ก็ย่อมได้ รวมทั้งสามารถใช้ประโยชน์ที่ใกล้เคียงกับคำว่าโถงประตูทางเข้าได้ เช่นกัน แต่ลักษณะของการใช้งานอาจจะไม่เหมือนกัน และไม่ได้แยกให้เห็นเป็นสัดเป็นส่วน

ก่อนจะรู้ถึงหน้าที่ของโถงประตูทางเข้าก็ควรรู้เสียก่อนว่าส่วนที่กล่าวถึงนี้อยู่ตรงไหนของบ้าน และหน้าตาเป็นอย่างไรกัน

บางบ้านอาจจะรู้หรืออาจจะมีส่วนนี้กันแล้วก็ได้ แต่อีกหลาย ๆ บ้านยังไม่เคยคิดถึงห้องห้องนี้ ในความหมายของคำนี้ก็บอกอยู่ในตัวเองแล้วว่าเป็นเนื้อที่ว่างที่อยู่ตรง บริเวณประตูทางเข้า ซึ่งหมายถึงประตูเข้าตัวบ้านนั่นเอง ประตูที่เป็นส่วนแรกหรือด่านหน้าสุดที่จะนำเข้าสู่ภายในบ้านไปยังส่วนต่าง ๆ ของบ้าน

โดยปกติทั่วไปแล้วเราก็มักพบกันอยู่เสมอแล้วว่าเนื้อที่ในบ้านที่ติดกับ ประตูทางเข้านั้นก็มักจะเว้นให้เป็นเนื้อที่ว่างเป็นบริเวณเล็ก ๆไว้อยู่แล้ว และมักจะไม่จัดให้มีอะไรมาวางบริเวณนี้ ที่จะทำให้ดูเกะกะหรือขวางทางพอสมควร การเว้นเนื้อที่ว่างเล็ก ๆ ส่วนนี้ไว้ก็อาจถือเป็นโถงประตูทางเข้าได้

โดยหน้าที่แล้วโถงประตูทางเข้าเป็นเสมือนส่วนเชื่อมต่อของภายนอกบ้านกับ ภายในบ้าน โดยจะพบว่าบ้านฝรั่งหรือบ้านในซีกโลกตะวันตก
จะให้ความสำคัญกับบริเวณพอสมควรแทบทุกบ้านจะเว้นเนื้อที่ส่วนนี้เอาไว้ใน บริเวณประตูทางเข้าบ้าน แต่ก็ไม่ได้เว้นเอาไว้เปล่า ๆ
เพื่อเป็นการเชื่อมโยงภายนอกกับภายในดังที่กล่าวมาแล้วนั้น กลับเป็นส่วนที่ต้องใช้ประโยชน์จริง ๆ ซึ่งโดยความจำเป็นของลักษณะภูมิอากาศ
กับสภาพความเป็นอยู่ช่วยกันกำหนดบริเวณ นี้ให้เกิดขึ้นมา

จะเห็นว่าบ้านของฝรั่งไม่ว่าในยุโรปหรืออเมริกานั้นเป็นบ้านที่อยู่ในเขต ที่มีอากาศหนาว มีหิมะปกคลุมโดยทั่วไป ผู้คนก็จะต้องมีเสื้อผ้า
สิ่งปกคลุมที่จะทำให้ร่างกายอบอุ่นมากมายและค่อนข้างหนาตลอดเวลาที่ต้องอยู่ ภายนอกอาคารต่าง ๆ แต่เมื่อเดินเข้าสู่ภายในตัวอาคาร
ซึ่งจะมีเครื่องทำความร้อนให้ความอบอุ่นกว่าภายนอก เสื้อผ้าหนา ๆ จะไม่มีความจำเป็น เขาก็จะถอดแขวนไว้บริเวณประตูทางเข้า
ซึ่งเขาอาจจะทำเป็นแค่เพียงตะขอแขวน หรือทำเป็นตู้เก็บฝังไว้ในผนังให้ดูเรียบร้อย และอาจจะไม่ปรากฎเฟอร์นิเจอร์ใด ๆ
ในบริเวณนี้ จะมีบ้างก็คงเป็นแผ่นกระจกเงาติดผนังอยู่

แต่ก็ไม่ใช่กฎเกณฑ์ที่ตายตัว แล้วแต่ฐานะของแต่ละบ้านและความสวยงามอีกด้วย จะเห็นว่าบางบ้านเขาก็อาจทำเป็นโต๊ะชิดผนังตัวเล็กๆ
ไว้ที่พอจะวางสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้บ้าง เช่น โคมไฟ กระดาษโน้ตข้อความ พร้อมทั้งที่ทับกระดาษแบบสวยงามหรืออาจจะมีโทรศัพท์ติดตั้งอยู่
หรืออาจเป็นที่เสียบซองจดหมาย อาจมีเก้าอี้วางขนาบอยู่ที่ดูไม่เป็นงานเป็นการจนเกินไป หรืออะไรอีกหลาย ๆ อย่าง
เหล่านี้ที่เปรียบเสมือนหน้าที่ของโถงประตูทางเข้า

มาถึงตรงนี้อาจมีข้อโต้เถียงที่ว่าส่วนนี้ไม่เห็นจะเหมาะกับลักษณะชีวิต ความเป็นอยู่ของคนไทยแต่ประการใด เพราะคนไทยไม่ต้องใช้โค้ทกันหนาว
ไม่ใส่หมวกเหมือนดังฝรั่งเขาปฏิบัติกัน แล้วมันจะจำเป็นต่อบ้านของคนไทยได้อย่างไรกัน

ทีนี้ก็ลองมองย้อนไปสมัยรัชกาลที่ 7 ซึ่งเป็นยุคสมัยที่คนไทยจะต้องสวมหมวกออกนอกบ้านทั้งผู้ชายและผู้หญิง
ในยุคนั้นเราจะมีลักษณะของการสังคมคล้ายฝรั่ง บ้านที่สร้างขึ้นในสมัยนั้นเขาจะทำแขวนหมวกแขวนร่มเอาไว้ในบริเวณโถงประตูทางเข้า
ซึ่งเท่ากับว่าส่วนนี้มีประโยชน์สำหรับคนไทยในยุคนั้นแล้วเครื่องเรือนที่ อยู่ในบริเวณโถงทางเข้ามักจะทำได้อย่างสวยงาม

แต่สำหรับในสมัยต่อมารวมทั้งปัจจุบันคนไทยไม่นิยมสวมหมวกกันแล้ว ส่วนนี้จะควรมีหรือจะมีประโยชน์ต่อคนไทยได้อย่างไร

มีการดัดแปลงหรือเปลี่ยนแปลงลักษณะของการใช้สอยเนื้อที่บริเวณโถงประตู ทางเข้าให้มีประโยชน์และดูสวยงามเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็ไม่ต่างไปจากลักษณะของการใช้สอยดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เช่น

จัดเป็นโต๊ะชิดผนังขนาดเล็ก ๆ เพื่อใช้สำหรับวางของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เหมาะแก่การเดินผ่านและพอสังเกตเห็นได้โดยง่าย เช่น
วางซองจดหมาย วางกระดาษโน้ต เป็นต้น

พอจัดเป็นโต๊ะชิดผนังแล้ว อาจจะดูเรียบเกินไป จึงมีการเพิ่มรูปภาพตกแต่งที่ผนังเหนือโต๊ะขึ้นไป วางหรือ
ติดตั้งในลักษณะที่มีความสัมพันธ์กับการตั้งโต๊ะ และเรียกความสนใจได้พอสมควร

หากเป็นบ้านที่มีบริเวณโถงนี้มากพอ เขาก็จะเพิ่มเก้าอี้นั่งซึ่งมักเป็นเก้าอี้แบบไม่มีเท้าแขนขนาบโต๊ะชิดผนัง ข้างละหนึ่งตัว
หรือจะใช้เก้าอี้แบบมีเท้าแขนก็ได้แต่ต้องมีบริเวณที่กว้างพอ เพราะอาจจะทำให้เนื้อที่ส่วนนี้ดูคับแคบไป เนื่องจากเก้าอี้เท้าแขนนั้นเหมาะที่จะนั่งแบบสบายๆ

ถ้าหากมีบริเวณกว้างเพิ่มขึ้นอีก ส่วนนี้จะใช้ประโยชน์ได้เพิ่มขึ้น โดยใช้เป็นที่พักคอย ซึ่งจะเหมาะกับบ้านที่มีขนาดใหญ่
และจะทำโถงนี้เป็นบริเวณเฉพาะ อาจจะเพิ่มเป็นโซฟาอยู่ด้านตรงข้ามกับโต๊ะชิดผนังก็ได้ ถ้าโซฟาอยู่ด้านตรงข้ามกับโต๊ะชิดผนังก็ได้
ถ้าหากมีผู้มาติดต่อที่ไม่ใช่แขกโดยตรงเขาก็จะใช้เนื้อที่บริเวณนี้โดยไม่ ต้องเข้าไปในห้องรับแขก

โต๊ะชิดผนังกับกระจกเงาจะให้ประโยชน์เพียงแค่เป็นส่วนตกแต่งเนื้อที่ให้ สวยงาม หรือดูไม่ว่างเปล่าจนเกินไป ซึ่งอาจจะไม่มีประโยชน์นัก
สำหรับบ้านระดับกลางลงมา แต่มันจะเหมาะยิ่งขึ้นด้วยการเปลี่ยนจากโต๊ะชิดผนังเป็นตู้เตี้ยชิดผนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยิ่งทำเป็นตู้เก็บรองเท้า
ซึ่งจะเหมาะกับคนไทย เพราะคนไทยไม่นิยมใส่รองเท้าในบ้าน ส่วนนี้เป็นส่วนแรกที่จะเดินเข้าบ้าน และบ้านโดยทั่วไปจะพบว่าขาดตู้เก็บรองเท้า
หน้าประตูทางเข้าบ้านจะมีรองเท้ากองอยู่เต็ม ดูแล้วจะไม่ค่อยสวยงามเสียเลย ทั้งยังไม่เป็นระเบียบอีกด้วย เฉพาะของแขกที่มาเยือนก็ไม่กระไรนัก
เสร็จธุระแขกก็ใส่กลับ แต่ของเจ้าของบ้านทุกคนนั้นควรจะเก็บไว้ให้เรียบร้อย ยิ่งถ้าภายในบ้านตกแต่งไว้สวยงาม ส่วนหน้านี้ก็จะยิ่งมีความจำเป็น

ตู้ชิดผนังนี้ไม่ต้องทำให้มีขนาดลึกมากนัก ถ้าคิดว่าจะเป็นตู้เก็บรองเท้าก็ควรมีทางระบายอากาศด้วย เช่น ทำเป็นบานเปิดบานเกล็ด เป็นต้น
ซึ่งถ้าเป็นตู้เตี้ยชิดผนังนี้จะให้ประโยชน์หลายประการด้วยกัน เพราะนอกจากจะใช้เป็นที่เก็บรองเท้าหรือเก็บของแล้ว ด้านบนของตู้ยังใช้ประโยชน์ได้
เหมือนกับโต๊ะ ใช้วางของได้ ผนังแต่งด้วยกระจกเงาก็จะรวมประโยชน์ใช้สอยได้พร้อมกัน

ส่วนนี้จะดูสวยงามได้ก็ต้องมีการเพิ่มสีสันเข้าไปบ้าง การกำหนดจุดแสงสว่างทำได้หลายลักษณะ เช่น เป็นดาวน์ไลท์ติดเพดานส่องลงมา
หรือเป็นสปอร์ตไลท์ที่สามารถปรับทิศทางได้ การกำหนดตำแหน่งดวงไฟเหนือกระจกเงาในลักษณะเดียวกับไฟส่องภาพเขียน
หรือจะเป้นไฟกิ่งซึ่งติดด้านข้างของกระจกเงาข้างละดวง หรือจะใช้เป็นโคมไฟตั้งโต๊ะหรือตั้งพื้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของการตกแต่งภายในด้วย
ไม่จำเพาะเจาะจงกับบ้านเท่านั้น ห้องชุดหรือคอนโดมิเนียมก็ยิ่งควรมีโถงนี้ เพราะว่าทุกห้องภายในนั้นถูกจัดอยู่ในระดับพื้นเดียวกัน
ซึ่งเมื่อก้าวเข้าไปแล้วก็เท่ากับมองเห็นภายในบ้านทั้งหมด การมีโถงส่วนนี้ก็เหมือนกับการเตรียมพร้อมก่อนที่แขกจะเข้าสู่ภายใน

โถงประตูทางเข้าไม่ได้จำกัดให้เป็นแต่เพียงเนื้อที่ว่างเล็ก ๆ ที่เปล่าประโยชน์ดังที่หลายคนคิด หรือวางเฟอร์นิเจอร์เพียง 2-3 ตัว
เพื่อแก้ไขเนื้อที่ว่างเท่านั้น เพราะจริง ๆแล้วบริเวณโถงประตูทางเข้าเป็นเสมือนสิ่งที่จะบ่งบอกถึงลักษณะความเป็นอยู่ ของเจ้าของบ้านหรือลักษณะนิสัยด้วย
นอกจากจะใช้เพื่อรับแขก แต่งตัว พักคอย หรือที่นั่งใส่รองเท้า เนื้อที่เล็กแต่ก็มีประโยชน์มากหลาย
|