3 องค์ประกอบของการตกแต่งบ้าน
7 ก.ค. 2554

3 องค์ประกอบของการตกแต่งบ้าน
ในความจริงแล้วมีองค์ประกอบมากมายที่สามารถนำมาใช้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการตกแต่งบ้านของคุณให้น่าอยู่ขึ้น อย่างไรก็ตามวันนี้เราจะขอแนะนำ 3 องค์ประกอบที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง องค์ประกอบเหล่านี้จะทำให้บ้านของคุณออกมาดูดี พร้อมทั้งสร้างความรู้สึกดีดีให้แก่ผู้อยู่อาศัยซึ่งก็คือตัวคุณเอง และคนในครอบครัว เพื่อให้บ้านไม่ได้เป็นแค่ บ้านพักอาศัย แต่เป็นสถานที่แบ่งปันความรู้สึกร่วมกัน
ความสมดุลย์
ความสมดุลย์ที่เราจะพูดถึงนี้แบ่งออกเป็นสองอย่างคือ การสมมาตรได้สัดส่วน และไม่สมมาตร หากเราลองพิจารณาการสมมาตร ก็จะเห็นว่ามันเหมือนกับร่างกายของมนุษย์ ซึ่งมีตาสองตา มีแขนสองข้าง เป็นต้น การสมมาตรจะช่วยสร้างความสมดุลย์ให้กับบ้านพักอาศัย ซึ่งเป็นสิ่งที่รู้กันดีอยู่แล้ว ในขณะเดียวกันความไม่สมมาตรกันของการออกแบบ จะทำให้เกิดความไม่สมดุลย์ เปรียบเสมือนขาสั้นข้างยาวข้าง หรือเทียนสองเล่มที่เล่มหนึ่งยาว เล่มหนึ่งสั้น แต่นำมาวางไว้บนโต๊ะตัวเดียวกัน แม่ว่าความไม่สมมาตรจะทำให้เกิดความไม่สมดุลย์ แต่ก็สามารถนำมาประกอบการออกแบบตกแต่งเพื่อช่วยสร้างจินตนาการ สร้างอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี การออกแบบโดยนำความไม่สมมาตรมาใช้นั้นจะสร้างความรู้้สึกไม่เป็นทางการ ซึ่งต่างจากการใช้สมมาตรเข้ามาออกแบบตกแต่ง ซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกเป็นทางการกว่ามาก
ความสมดุลย์ยัง หมายถึง น้ำหนักของวัตถุต่าง ๆ ที่อยู่ในห้อง ซึ่งรวมถึงน้ำหนักของวัตถุ และขนาดของมันด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแจกัน รูปภาพ หรือเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ที่นำเข้ามาติดตั้งไว้ภายในห้อง ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณต้องการทำห้องนั่งเล่นห้องหนึ่ง คุณอาจต้องการให้น้ำหนักของห้องอยู่ต้องกลาง และหากต้องการให้ตรงกลางห้องเป็นจุดศูนย์รวมของห้อง คุณก็อาจเลือกโซฟาตัวใหญ่มาวางไว้ เพื่อให้เกิดน้ำหนักที่จุดนั้นเป็นพิเศษ
สีสันของวัตถุก็เป็นส่วนหนึ่งของน้ำหนักที่เรากำลังพูดถึงเช่นเดียวกัน สีเป็นส่วนช่วยให้วัตถุนั้นดูมีน้ำหนัก หรือความสนใจที่เด่ดชัดขึ้ันมาได้ ซึ่งในการตกแต่งห้อง ๆ หนึ่งถ้าวางน้ำหนักของวัตถุไว้ที่ข้างใดข้างหนึ่งมากเกินไปจะทำให้ห้อง ๆ นั้นดูแปลกประหลาดออกไป ซึ่งอาจเป็นการแปลกในทางที่ดี หรืออาจทำให้รู้สึกอึดอัดไม่น่าอยู่ได้เช่นกัน
เรื่องของสี
ตาของคนเราสามารถมองสีได้ 16 ล้านสี และเรายังมีอารมณ์ร่วมกับสีต่าง ๆ ด้วยเช่นสีแดง ทำให้เกิดความรู้สึกร้อนแรง สีเขียวทำให้เกิดความอบอุ่นสบาย สีน้ำตาลทำให้เกิดความรู้สึกเป็นทางการ สีดำทำให้รู้สึกทันสมัยดูเท่ห์ไม่เหมือนใคร ซึ่งการใช้สีนั้นจะต้องนำมาประกอบกันมากกว่าหนึ่งสี ซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกใหม่ๆ ที่น่าสนใจขึ้นมาได้ และสีควรจะเป็นส่วนที่สัมพันธ์กันกับเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ที่อยู่ในห้อง
โดยปกติแล้วเราจะใช้กฏของสี 60-30-10 มาใช้ในการกำหนดสีของห้อง ยกตัวอย่างเช่น สีที่คุณชอบเป็นสี, สีเหลือง และสีครีม คุณอาจเลือกใช้ สีเหลืองทาที่กำแพงเป็นสัดส่วน 60% ของห้อง และใช้โซฟาสีฟ้าเข้ามาช่วยซึ่งอาจนับได้เป็น 30% ของห้อง และคุณอาจใช้ผ้าม่านที่มีสีครีมมาช่วยในจุดต่าง ๆ ที่อาจนับได้เป็น 10% ของพื้นที่ห้อง การใช้กฏ 60-30-10 จะช่วยทำให้ห้อง หรือบ้านของคุณอาจมาน่าสนใจ สวยงามไม่น่าเบื่อได้เป็นอย่างดี เมื่อสามารถเลือกใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
จุดโฟกัสช่างสำคัญ
จุดโฟกัสคือจุดที่รวมความสนใจของห้องไว้ โดยปกติแล้วจะเป็นส่วนของห้องที่สายตาจะเห็นจุดๆ นั้นของห้องได้ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งต้องเป็นจุดที่มีคึวามโดดเด่นนั่นเอง ถ้าห้องของคุณไม่มีการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่มีจุดเด่น อย่างเช่นปล่องไฟอย่างบ้านฝรั่ง หรือหน้าต่างบานใหญ่ ๆ วางไว้ในจุดที่สามารถมองเห็นได้ในทันทีที่เข้ามาในห้อง เมื่อไม่มีของพวกนี้คุณสามารถใช้การจัดวางของต่าง ๆ เข้ามาช่วยแทนได้ เช่นวางโต๊ะชั้นหนังสือใหญ่ ๆ ใน หรือติดรูปภาพขนาดใหญ่ เป็นต้น ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่คุณจะวางอะไรให้เป็นจุดสนใจ แต่อยู่ที่เมื่อจัดวางลงไปแล้วจุดรวมสายตานั้นสามารถออกมากลมกลืน สวยงามกับภาพรวมของห้อง ๆ นั้นหรือไม่ต่างหาก ดังนั้นคุณอาจทดลองนำมาจัดวาง และปรับเปลี่ยนจนเกิดความพอใจในที่สุด