การเลือกเครื่องปรับอาการศหรือแอร์มาใช้งานในบ้าน นอกจากยี่ห้อแล้วสิ่งที่ต้องคำนึงถึงขนาดพื้นที่ของห้อง และขนาดของแอร์ที่เรียกกันว่า BTU เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและประหยัดกับผู้ใช้ เพราะนอกจากการติดแอร์ในบ้านสามารถทำให้บ้านของเราเย็นน่าอยู่ นอนหลับสบาย ไม่ร้อน เมื่อถึงหน้าร้อนเราก็สามารถเปิดแอร์เพื่อคลายความร้อนจากภายนอกบ้านได้ แต่ถึงเวลาต้องจ่ายค่าไฟนี่สิ มันไม่สบายเหมือนตอนนั่งตากแอร์อยู่ในบ้านเลย วันนี้เรามีวิธีเลือกแอร์ที่เหมาะสมกับขนาดของบ้านเรา เพื่อไม่ให้เราต้องจ่ายค่าไฟเยอะเกินไป

การเลือกแอร์ง่ายให้เลือกตามขนาดดังนี้:

ขนาดแอร์ 9,000BTU ขนาดห้อง(ตรม.) ห้องปกติ 12-15 ห้องที่โดนแดด 11-14
ขนาดแอร์ 12,000BTU ขนาดห้อง(ตรม.) ห้องปกติ 16-20 ห้องที่โดนแดด 14-18
ขนาดแอร์ 18,000BTU ขนาดห้อง(ตรม.) ห้องปกติ 24-30 ห้องที่โดนแดด 21-27
ขนาดแอร์ 21,000BTU ขนาดห้อง(ตรม.) ห้องปกติ 28-35 ห้องที่โดนแดด 25-32
 
หากห้องที่ใหญ่กว่านี้ก็สามารถคำนวนขนาดแอร์ได้เองโดยใช้สูตรง่ายๆดังนี้

หลักการคำนวณ
            ขนาดห้อง กว้าง(ตร.ม.)xยาว(ตร.ม.)x800= ขนาด BTU ของแอร์

            แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณา รูปแบบของห้องด้วยครับ ว่าโดนแดดมากไหม หรือมีคนอยู่มาแค่ไหน อย่างเช่น หากเป็นร้านอินเตอร์เนต หรือร้านอาหาร ก็อาจจะต้องบวกเพิ่มอีกเล็กน้อยเพราะต้องสู้กับความร้อนของเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมาก หรือความร้อนจากร่างกายคนจำนวนมากที่มาอยู่รวมกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขนาดแอร์ที่คำนวนได้จากสูตรก็สามารถเ็ป็นแนวทางให้กับเราในการเลือกแอร์มาติดตั้งให้ถูกต้องได้เหมาะสมมากขึ้น

            เป็นอย่างไรบ้างครับ ไม่ยากเลยใช่ไหมครับสำหรับการเลือกแอร์ให้คุ้มค่าและช่วยประหยัดไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้เราได้รับความสะดวกสบายเต็มที่และไม่ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าสูงลิบลิ่ว โดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย และอย่าลืมเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศประหยัดไฟ เบอร์ 5 นะคร้าบ จะช่วยให้ประหยัดไฟเพิ่มขึ้นได้อีกและยังเป็นการช่วยลดอันตรายต่อชั้นบรรยากาศของเราได้อีกด้วยครับ