ว่าด้วยเรื่อง การมุงหลังคา
31 พ.ค. 2554

หลังคาเป็นส่วนประกอบด้านบนของบ้านหรืออาคาร เพื่อกันแดดกันฝน มีรูปทรง สีสัน วัสดุที่ใช้แตกต่างออกไป ตามความนิยมและวัฒนธรรม แต่ไม่ว่าความนิยมและวัฒนธรรมในแต่ละที่แต่ละแห่งจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่เจ้าของบ้านต้องการคือ หลังคาที่สวยงามและแข็งแรง ดังนั้นเพื่อให้บ้านของคุณมีหลังคาที่สวยงาม ทำหน้าที่กันแดด กันฝนได้ทนนานลองอ่านข้อมูลที่เรานำมาเสนอต่อไปนี้ดูละกัน รับรองเป๊ะ!
โครงหลังคาเป็นไม้หรือเป็นเหล็กดี กลัวเหล็กเป็นสนิม
จะใช้วัสดุอะไร หากออกแบบมาดี ก่อสร้างดี ก็แข็งแรงได้ทั้งนั้นครับ ตามที่นิยมใช้กันในปัจจุบันโครงหลังคาจะเป็นโครงเหล็กเนื่องจากทำได้ ราคาถูกที่สุด โดยทั่วไปแบบมักจะออกมาดีอยู่แล้ว แต่ต้องระวังตอนก่อสร้าง (เหมือนงานส่วนอื่นๆ แหละครับ ตอนทำคุมยากกว่า) ผมมีข้อแนะนำดังนี้
-
ตอนออกแบบโครงสร้าง วิศวกรมักนิยมใช้เหล็กความหนา 2.3 มม. และ 3.2 แต่ ตอนก่อสร้างจริง เหล็กที่ส่งมาจากผู้จำหน่ายอาจมีความหนาเพียง 1.6-1.8 มม. เท่านั้น (พบเห็นได้ไม่ยาก) แล้วพิมพ์ silk screen ว่าเป็นเบอร์ 2.3 (หรือประมาณ 2.5 สำหรับ 3.2 ) ทำให้โครงสร้างแข็งแรงน้อยกว่าที่ได้คาดคิดไว้ ควรจะมีการตรวจสอบชั่งน้ำหนักหน้างานครับ
-
รอยเชื่อมต่อสำคัญมาก รอยเชื่อมที่แปวางบนจันทันต้องเดินรอยเชื่อมยาว บางทีช่างมักง่ายเชื่อมแต้มเป็นจุดๆไว้เฉยๆ
-
ควรมีการทาสีกันสนิมด้วย เพื่อยืดอายุการใช้งาน ครับ
ส่วนโครงหลังคาไม้ต้องระวังเรื่องปลวกครับ แต่ตอนนี้คงใช้กันน้อยเนื่องจากไม้แพง
รูปทรงของหลังคา
หลังคาแบบทั่วไปใช้กันอยู่ 5 รูปทรงคือ
-
หลังคา SLAB หรือหลังคาแบน เหมือนดาดฟ้าสามารถใช้ประโยชน์บนหลังคาได้
-
หลังคาเพิงหมาแหงน คือ หลังคาที่เอียงไปด้าน เดียว ราคาถูก และก่อสร้างง่าย
-
หลังคาทรงมนิลา หรือหลังคาหน้าจั่ว คือ หลังคา ที่มีสันตรงกลาง และลาดลงทั้ง 2 ข้าง
-
หลังคาทรงปั้นหยา เป็นหลังคาที่กันแดดกันฝน ได้ทุกด้าน แต่ราคาค่อนข้างแพง
-
หลังคาปีกผีเสื้อ ปัจจุบันไม่นิยมกันแล้ว เพราะ จะเอียงกลับเข้ามาตรงกลาง ซึ่งเป็นรางน้ำทำให้รั่วง่าย
ชนิดของวัสดุมุงหลังคา
จะเลือกมุงหลังคาด้วย ซีแพ็คโมเนีย หรือ กระเบื้องลอนคู่ดี
ผมเอาซีแพ็คโมเนียเป็นตัวฐานในการเปรียบเทียบ เนื่องจากเป็นมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไป กระเบื้องลอนคู่ หรือ กระเบื้องซีเมนต์ใยหิน ข้อดีราคาถูกเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ เบา ทำงานได้เร็ว ช่วยลดโครงสร้างหลังคา และน้ำหนักที่ลงโครงสร้างและฐานราก สามารถใช้ความชันหลังคาได้ต่ำ 15 องศา ปัจจุบันมีสี รูปร่างลอน ความยาวให้เลือกได้บ้าง แม้จะไม่มาก แต่ก็พอเล่นได้ ข้อเสียคือหลายๆยี่ห้อไม่ค่อยทนครับ(ถึงจะเป็นรุ่นที่ดีแล้วก็ยังไม่เท่าซีแพ็คโมเนีย) และรูปลักษณ์ที่ปรากฏนั้นคงแล้วแต่สายตาของแต่ละคน การเลือกใช้คงดูที่งบประมาณ ความคงทน และรูปลักษณ์ที่ต้องการครับ
ทำหลังคาอย่างไรให้ทน
ปรกติหลังคาบ้านจะไม่ต้องบำรุงรักษาอะไร ถ้าเนื้อวัสดุดี การติดตั้งถูกต้อง ทำยังไงให้หลังคาทน มีดังนี้
-
หลังคาที่ออกแบบโดยวิศวกรจะทน เนื่องจากแปเหล็กไม่ได้ออกแบบให้เพียงอยู่ได้ แต่ต้องคำนึงถึงการแอ่นตัวของหลังคา (แอ่นมากๆน้ำเข้า) การให้มี SAG ROD และ DIAGONAL TIE กันแปโย้ หลังคาบิดเบี้ยวเมื่อมีลมพายุ แต่ถ้าหลังคาเล็กๆก็อย่าเพิ่งคิดมาก
-
กระเบื้องลอนคู่ ลอนเล็ก ลอนใหญ่ ซึ่งเป็นวัสดุซีเมนต์เสริมใยหิน ของแต่ละยี่ห้อคุณภาพเนื้อไม่เหมือนกัน อยากอยู่ทนทานต้องลองสังเกตสัตว์ที่มีอายุยืนนาน หนา 5 มิลลิเมตร แพงกว่าแต่ทนกว่า
-
แปเหล็กตามแบบ พอช่างไปสั่งจากร้านเหล็ก หรือคุณไปซื้อเอง เช่นขนาด C 100x50x20x2.3 หมายความว่าหนา 2.3 มิลลิเมตร ซึ่งจะหนัก 4.06 กก./ม. หรือท่อนละ 24.36 กก. แต่ลองชั่งดูเถอะครับจะหายไปประมาณ 20-30 % ให้คุยกับร้านเหล็กตรงๆเลยว่าเท่าไหร่ก็บอกมา (จะคอยชั่งนะ) ให้ใช้เหล็กจากโรงงานที่มีมาตรฐานน้ำหนักไม่ตกดีกว่าครับ
-
ทาสีรองพื้นและกันสนิมด้วย
-
การเจาะรูกระเบื้องซีเมนต์ใยหิน ให้ใช้สว่านเจาะ ช่างมักง่ายจะใช้ตะปูตอก ซึ่งถ้าไม่ร้าวก็น้ำรั่วได้ครับ ถึงก็ไม่ควรทำ 6.ตอนใช้ คอยสำรวจตรวจตราอยู่เสมอ ถ้ามีการเป็นสนิม หรือ สีกันสนิมหมดอายุ ควรซ่อมแซมทาใหม่ครับ