|
1. กระจกเงา(Mirror)
กระจกเงานอกจากใช้เพื่อส่องดูแล้ว ยังนิยมใช้ตกแต่งผนัง หรือฝ้าเพดาน ในกรณีที่ต้องการลวงตาทำให้ห้องดูกว้างขึ้น หรือปิดบังผนังหรือเสาให้รู้สึกว่าไม่มีผนัง หรือเสานั้น กระจกเงามีหลายสี เช่น กระจกเงาใส กระจกเงาสีชา และกระจกเงาสีดำ และมีความหนาตั้งแต่ 2 ถึง 6 มิลลิเมตร การติดกระจกเงาในห้องน้ำหรือผนังที่มีความชื้น ควรรองด้วยแผ่นไม้อัดชนิดกันชื้นหนา 10 มม.ไว้ที่ด้านหลังและใช้สารกันชื้นเคลือบที่ขอบกระจก เพื่อกันไม่สารเคลือบเงาด้านหลังลอก หรือเกิดเป็นจุดดำ
2.กระจกใส(Glass)
นิยมใช้กั้นพื้นที่ ที่ต้องการให้สามารถมองทุผ่าน เช่น ระหว่างห้องรับแขกและห้องรับประทานอาหาร หรือเป็นช่องแสง เพื่อให้แสงส่องผ่านได้ กระจกใสมีหลายสี เช่น กระจกใสสีเขียว หรือสีฟ้า และมีความหนาตั้งแต่ 4 ถึง 20 มิลลิเมตรไม่ควรใช้กระจกใสธรรมดาสำหรับผนังที่มีขนาดใหญ่ หรือที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย และควรติดตั้งในกรอบ เช่น กรอบไม้ หรือ กรอบอลูมิเนียม
3.กระจกเทมเปอร์(Tempered Glass)
หรือกระจกอบหรือกระจกนิรภัย เป็นกระจกใสที่ผ่านกรรมวิธีพิเศษ แข็งแรงกว่ากระจกใสธรรมดา 5 เท่า (ราคาก็เช่นกัน) มีความปลอดภัยในการใช้งานสูง คือ เมื่อถูกทำให้แตก กระจกจะแตกเป็นเม็ดเล็กๆ เหมือนเมล็ดข้าวโพด ซึ่งจะช่วยลดอันตรายที่เกิดขึ้น นิยมใช้เป็นกระจกรถยนต์ กระจกบานเปลือยขอบสำหรับ ประตู, งานตกแต่งราวบันได, แผ่นท็อปโต๊ะรับประทานอาหาร, กระจกกั้นส่วนอาบน้ำ หรือบริเวณที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมีความหนาตั้งแต่ 6 ถึง 20 มิลลิเมตรTempered Glass เป็นกระจกที่ต้องสั่งผลิตขึ้นใหม่ทุกชิ้นที่ต้องการใช้งาน การเจาะรูบนเนิ้อกระจกต้องถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าก่อนการผลิต ไม่สามารถตัดหรือเจาะได้ในภายหลัง
4.กระจกลามิเนต(Laminated Glass)
ถือว่าเป็นกระจกนิรภัยอีกชนิดหนึ่ง เป็นกระจกสองชั้นที่มีแผ่นฟิล์มแทรกอยู่ตรงกลาง เมื่อกระจกถูกทำให้แตก เศษกระจกโดยส่วนใหญ่จะติดอยู่กับแผ่นฟิล์ม ซึ่งจะช่วยลดอันตรายที่เกิดขึ้นควรใช้ Laminated Glass ในกรอบบานเนื่องจากขอบของกระจกอาจมีความชื้นแทรกเข้าไปได้
5. กระจกเคลือบสี(Color Coated Glass)
คือกระจกใสธรรมดาที่ถูกเคลือบสีที่ผิวกระจกด้านหลัง และอบให้แห้งด้วยความร้อน นิยมใช้ตกแต่งผนัง และหน้าบานเฟอนิเจอร์
6.กระจกพ่นทรายตกแต่ง(Sandblasted Glass)
คือการนำกระจกชนิดต่างๆมาพ่นทรายด้วยเครื่องมือพิเศษให้เกิดผิวสัมผัส หรือลวดลายต่างๆ นิยมใช้เป็นบานประตู, บานตู้ และตกแต่งผนัง

7.กระจกสลักลาย (Etched Glass)
หรือกระจกแกะสลัก คือการขุดแซะเนื้อแก้วออกให้มีรูปทรงหรือลวดลาย โดยอาจสามารถแกะให้รูปรอยนั้นดูเป็นรูปรอยที่มีความลึกตื้นได้หลายระดับ อาจมีแกะสลักร่วมกับการพ่นทรายตกแต่ง

8. กระจกสีสเตนกลาส (Stained Glass)
คือ การนำเอากระจกสี, แก้วสี หรือกระจกเจียรไน มาต่อกันในรางทองเหลือง ให้เป็นรูปต่างตามที่ต้องการ พบเห็นได้ทั่วไปในโบถส์ของคริสต์ศาสนา
9.กระจกสูญญากาศ(Insulated Glass)
หรือกระจกฉนวน(Double Glazing) คือกระจกสองชั้นในกรอบเฟรม ซึ่งมีก๊าซเฉื่อยแทรกอยู่ในช่องว่าง(Air Gap)ระหว่างแผ่นกระจก ซึ่งจะลดความร้อนและกันเสียงได้ดีกว่ากระจกทุกแบบ มีราคาแพง นิยมใช้เป็นผนังตึกสูง(Curtain Wall)

10.กระจก Low-e (Low Emissivity Glass)
คือกระจกที่มีการเคลือบสารบนผิวกระจกซึ่งจะยอมให้เฉพาะรังสีอาทิตย์ในช่วงคลื่นที่ตามองเห็นหรือแสงสามารถผ่านเข้ามาได้มากขณะที่รังสีอาทิตย์ในช่วงที่เป็นความร้อนเข้าได้น้อย มีราคาแพง นิยมใช้เป็นผนังตึกสูง(Curtain Wall) และอาจใช้เป็นส่วนประกอบของ Insulated Glass
|