1. พื้นไม้ (Wooden Floor)
พื้นไม้ในท้องตลาดมี 3 แบบให้เลือก คือ พื้นไม้จริง (Solid Wood), พื้นไม้วิศวกรรม
(Engineered Hardwood flooring) และพื้นไม้ลามิเนต (Laminated Wood Flooring)
ข้อดี
1. สวยงาม
2. ทำความสะอาดง่าย ถ้าผิวเคลือบโพลียูรีเธน หรือ ผิวเป็นพลาสติกลามิเนต
ข้อเสีย
1. ทนต่อความชื้นได้ไม่ดี อาจโก่ง บิด หริอขึ้นราได้ง่าย
2. พื้นไม้ที่ขัดหรือเคลือบผิวจนเป็นเงา จะทำให้ลื่นเป็นอันตราย
3. เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย
4. พื้นไม้จริง (Solid Wood) การติดตั้งใช้เวลานานมีฝุ่นและกลิ่น เนื่องจากต้องมีการขัดผิวและทำสีที่หน้างาน
5. ไม่สามารถทนความร้อนสูงหรือเปลวไฟที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานในครัวได้
ราคา
พื้นไม้จริง (Solid Wood) ราคารวมค่าวัสดุและค่าติดตั้ง ประมาณ 1,000 ถึง 3,000 บาทต่อ ตารางเมตร
พื้นไม้วิศวกรรม (Engineered Hardwood flooring) ราคารวมค่าวัสดุและค่าติดตั้ง ประมาณ 1,000
ถึง 2,000 บาทต่อ ตารางเมตร
พื้นไม้ลามิเนต (Laminated Wood Flooring) ราคารวมค่าวัสดุและค่าติดตั้ง ประมาณ 500 ถึง 1,000 บาทต่อ ตารางเมตร
ข้อแนะนำ
ไม่แนะนำให้ใช้พื้นไม้ปูห้องที่มีการใช้งานแบบห้องครัว
2. กระเบื้องยาง (PVC Tile, Vinyl Flooring)
กระเบื้องยางมีแบบชนิดที่เป็นแผ่น (PVC Tile) ที่พบเห็นกันในสำนักงานทั่วไป หรือแบบที่เป็นม้วน
( PVC Roll , PVC Sheet , Linoleum ) ที่เห็นติดตั้งกันในรถไฟฟ้า โดยส่วนมากมีความหนาที่ 2 ถึง 3 มม.
ข้อดี
1. มีความอ่อนนุ่ม หยืดหยุ่นมาก
2. กันน้ำได้ดี
3. ทำความสะอาดง่าย
4. มีลายและสีสันให้เลือกมากมาย
5. ติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว
6. PVC Tile แบบปกติราคาไม่แพง
ข้อเสีย
1. PVC Tile แบบปกติ เกิดรอยขีดข่วน ได้ง่าย
2. PVC Tile แบบปกติ อายุการใช้งานสั้น
3. PVC Roll , PVC Sheet , Linoleum มีราคาค่อนข้างสูง
4. ไม่สามารถทนความร้อนสูงหรือเปลวไฟที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานในครัวได้
ราคา
PVC Tile แบบปกติ ราคารวมค่าวัสดุและค่าติดตั้ง ประมาณ 300 ถึง 500 บาท ต่อ ตารางเมตร
PVC Tile ลายพิเศษ เช่น ลายหิน หรือลายไม้ ราคารวมค่าวัสดุและค่าติดตั้ง 800 ถึง 1,500 บาท ต่อ ตารางเมตร
PVC Roll , PVC Sheet , Linoleum ราคารวมค่าวัสดุและค่าติดตั้ง ประมาณ 800 ถึง 2,000 บาท ต่อ ตารางเมตร
ข้อแนะนำ
ไม่แนะนำให้ใช้ปูห้องที่มีการใช้งานแบบห้องครัว
3. คอนกรีตเปลือยขัดมัน, ปูนซีเมนต์ขัดมัน
ข้อดี
1. ทนต่อความร้อนหรือเปลวไฟที่อาจเกิดจากการใช้งานในครัวได้ดี
2. ก่อสร้างได้เร็ว
2. ราคาถูก
ข้อเสีย
1. ผิวสัมผัสแข็ง และเย็น
2. ปูนซีเมนตที่ผิวหลุดเป็นฝุ่นผงและเกิดรอยแตกร้าวได้ง่าย (ควรเคลือบผิวด้วย Chemical Floor Hardener)
3. พื้นลื่นเป็นมันเงา อาจเกิดอันตรายได้ง่าย (ปัจจุบันมีน้ำยาสำหรับเคลือบผิวกันลื่นจำหน่าย)
4. การก่อสร้างมีฝุ่นและกลิ่น
ราคา
งานปูนซีเมนต์ขัดมัน ราคารวมค่าวัสดุและค่าแรง ประมาณ 150 ถึง 200 บาท ต่อ ตารางเมตร
เคลือบผิว Chemical Floor Hardener ราคารวมค่าวัสดุและค่าแรงประมาณ 200 ถึง 500 บาท ต่อ ตารางเมตร
ข้อแนะนำ
ไม่แนะนำให้ใช้ในห้องที่มีการใช้งานแบบห้องครัว
4. หิน (Stone)
หินมีมากมายหลายชนิด แต่ที่นิยมใช้คือ หินอ่อน ( Marble ), หินแกรนิต ( Granite ) ,
หินควอทซ์ ( Quartz ) , หินเทียม ( Compress Stone , Composite Stone )
หินที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมักมีขนาดแผ่น กว้าง 30 ซม หรือ 60 ซม ยาว 30 ซม หรือ 60 ซม
หินธรรมชาติมีความหนา 2 ซม. หินเทียม มีความหนา 1 ถึง2 ซม.
ข้อดี
1. ดูหรูหรา สวยงาม
2. มีหลากหลายสี และลวดลายให้เลือกใช้
3. แข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน
4. ทำความสะอาดง่าย โดยเฉพาะหินแกรนิตและ Composite Stone ที่มี Quartz เป็นส่วนผสม จะมีความทนทานต่อการกัดกร่อนของเคมีดีกว่าหิน
ชนิดอื่นๆ
5. สามารถขัดและเคลือบผิวหน้าใหม่ได้
6. ทนต่อความร้อนหรือเปลวไฟที่อาจเกิดจากการใช้งานในครัวได้ดี
ข้อเสีย
1. ผิวสัมผัสแข็ง และเย็น
2. หินอ่อนบางชนิด หรือหินเทียมที่ทำจากเศษหินอ่อนบางชนิด อาจมีรอยแยกหรือรูพรุน
ตามธรรมชาติ ที่อาจดูดซึมคราบ หรือน้ำเข้าไปในเนื้อหินได้ ซึ่งอาจไม่สามารถทำความสะอาด
หรือขัดใหม่ได้
3. พื้นลื่นเป็นมันเงา อาจเกิดอันตรายได้ง่าย (ปัจจุบันมีน้ำยาสำหรับเคลือบผิวกันลื่นจำหน่าย)
4. การติดตั้งใช้เวลานานมีฝุ่นและกลิ่น เนื่องจากต้องมีการตัดและปูด้วยปูนหรือกาวซีเมนต์ ที่หน้างาน
5. ราคาค่อนข้างแพง
ราคา
ราคารวมค่าวัสดุและค่าติดตั้ง ประมาณ 800 ถึง 8,000 บาท ต่อ ตารางเมตร
ข้อแนะนำ
เหมาะสำหรับใช้ปูพื้นห้องครัว
5. กระเบื้องเซรามิก (Ceramic Tile)
กระเบื้องเซรามิกสำหรับงานปูพื้น (Floor Tile) มักเป็นกระเบื้องเซรามิกที่ที่ผลิตจากเนื้อดินชนิด
Stone Ware หรือ Porcelain เผาด้วยความร้อนสูง และเคลือบผิวด้วยความร้อนสูง
ซึ่งจะมีความแข็งแกร่งกว่า การดูดซึมน้ำต่ำกว่า และผิวหน้าทนทานกว่ากระเบื้องบุผนัง (Wall Tile)
ขอบของกระเบื้องมีทั้งแบบขอบลาดและแบบขอบตัด ซึ่งแบบขอบตัด (Rectified Tile)
จะสามารถปูกระเบื้องให้เกือบชิดติดกันได้ (ประมาณ 1 มม.) ทำให้มีเส้นยาแนวที่แคบกว่า
(สวยงามกว่า, สกปรกน้อยกว่า)
ข้อดี
1. มีหลากหลายสี, ขนาด, และลวดลาย ให้เลือกใช้
2. ทำความสะอาดง่าย
3. แข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน
4. ทนต่อความร้อนหรือเปลวไฟที่อาจเกิดจากการใช้งานในครัวได้ดี
ข้อเสีย
1. ผิวสัมผัสแข็ง และเย็น
2. ไม่สามารถขัดผิวใหม่ได้
3. หากกระเบื้องแตกร้าวและต้องการเปลี่ยน อาจจะหากระเบื้องที่เหมือนกันได้ยาก (ควรมีสำรองเก็บไว้)
4. มีปัญหาเรื่องยาแนว ซึ่งโดยปกติจะกว้างประมาณ 2 ถึง 3 มม. โดยรอบชิ้นกระเบื้อง
ชึ่งมักจะสกปรกและขึ้นรา( อาจใช้กระเบื้องเซรามิกชนิดตัดขอบเพื่อให้มียาแนวน้อยลง
และใช้ยาแนวชนิดกันรา)
5. พื้นลื่นเป็นมันเงา อาจเกิดอันตรายได้ง่าย (ควรเลือกชนิดด้าน สำหรับงานปูพื้น)
6. การติดตั้งใช้เวลานานมีฝุ่นและกลิ่น เนื่องจากต้องมีการตัดและปูด้วยปูนหรือกาวซีเมนต์ ที่หน้างาน
ราคา
ราคารวมค่าวัสดุและค่าติดตั้ง ประมาณ 600 ถึง 3,000 บาท ต่อ ตารางเมตร
ข้อแนะนำ
เหมาะสำหรับใช้ปูพื้นห้องครัว
