การจัดห้องสำหรับเครื่องเสียงและการตกแต่ง

บ้าน >
บทความ >

การจัดห้องสำหรับเครื่องเสียงและการตกแต่ง

18 ก.ค. 2554

การจัดห้องสำหรับเครื่องเสียงและการตกแต่ง

ส่วนประกอบภายในบ้านอย่างหนึ่ง แม้จะไม่มีบทบาทสำคัญมากนัก แต่แทบทุกบ้านต่างก็มี สิ่งที่ว่านี้ก็ได้แก่ เครื่องเสียงอันประกอบด้วย วิทยุ โทรทัศน์ เครื่องเล่นเทปหรือแผ่นเสียง เป็นสิ่งบันเทิงที่ค่อนข้างเป็นเรื่องส่วนตัวหรือส่วนครอบครัว ความสะดวกสบายหรือความสวยงามของห้องจึงอาจจะพิเศษสำหรับตัวเจ้าของเอง หรือความต้องการที่จะให้ความรู้สึกที่เหมาะแก่การพักผ่อน

การจัดวางเครื่องเสียงกับลักษณะของการจัดวางเครื่องเรือนการตกแต่งภายในห้อง เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก โดยเฉพาะสำหรับนักฟังระดับหูทิพย์ ระดับเซียนทั้งหลาย ที่นอกจากจะมีห้องฟังโดยเฉพาะแล้ว ส่วนประกอบภายในห้องทุกส่วนต่างก็มีความสำคัญทั้งนั้น แต่สำหรับคนทั่วไปแล้ว เรามักจะไม่คำนึงถึงอะไรพิเศษมากนัก

โดยทั่วไปแล้ว ห้องฟังเพลงโดยเฉพาะนั้น ควรเป็นห้องที่มีลักษณะเป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าธรรมดา สัดส่วนของห้องกว้างคูณยาว ควรเป็นอัตราส่วน 1:2 โดยประมาณ หรือถ้าเทียบขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 7.50 เมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นขนาดห้องฟังเพลงที่ได้มาตรฐาน ไม่ควรเป็นห้องที่มีรูปทรงหลายเหลี่ยม

ห้องฟังเพลง ควรเป็นห้องที่มีความแข็งแรงพอควร กล่าวคือควรเป็นห้องที่มีโครงสร้างเป็นคอนกรีตได้ก็จะเป็นการดี ต้องมีโครงสร้างที่แข็งแรงมั่นคงทุกระนาบพื้นของห้อง ไม่ว่าจะเป็นพื้น ผนัง หรือเพดาน ต้องแน่นหนาถาวร

พื้น ห้องฟังเพลงควรเป็นห้องที่มีพื้นในส่วนโครงสร้างเป็นคอนกรีต หรือไม่ก็เป็นพื้นห้องชั้นล่าง จะใช้ห้องชั้นบนซึ่งมีพื้นไม้ แผ่นไม้กระดานตีลงบนตงไม้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะลักษณะพื้นดังกล่าวจะสามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้ค่อนข้างมาก หรืออาจจะสังเกตได้จากตัวอย่างห้องแถวชั้นบน เวลาเดินหรือรถวิ่งผ่านจะรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ซึ่งแบบนี้จะไม่เหมาะอย่างยิ่ง โครงสร้างพื้นห้องควรเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กที่แข็งแรง ส่วนผิวหน้านั้นจะตกแต่งด้วยวัสดุอื่น ตามมาก็ได้ เช่น พรม ปาร์เก้ เป็นต้น ซึ่งจะกล่าวถึงข้อดีข้อเสียต่อไปตอนท้ายในเรื่องวัสดุภายในห้อง

ผนัง เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ต้องการความแข็งแรงทนทาน โดยเฉพาะคอนักฟังเพลงระดับพิเศษ ความเหมาะสมของผนังประเภทก่ออิฐฉาบปูนหรือคอนกรีตเสริมเหล็กเหมาะกับห้องฟังเพลงที่สุด ก็เพื่อกันแรงสั่นสะเทือนทั้งภายในและภายนอก ซึ่งในตอนนี้เป็นเรื่องของโครงสร้างเช่นกัน ผนังห้องฟังเพลงไม่ควรเป็นโครงคร่าวไม้แล้วตีทับด้วยแผ่นไม้อัด ซึ่งบรรดาเซียนฟังเพลงก็บอกอีกเช่นกันว่าช่องว่างนี้จะช่วยให้แรงสั่นสะเทือนเพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นวัสดุที่ไม่ให้ผลดีต่อเสียงใด ๆ เลย คือทั้งไม่ดูดซับเสียงและไม่สะท้อนเสียงเช่นกัน จึงไม่เหมาะ หรือเซียนบางคนอาจจำเป็นต้องใช้โครงคร่าวไม้กั้นผนังห้อง แต่เขาแก้ไขจุดช่องว่างของโครงคร่าวไม้ด้วยการอัดไมโครไฟเบอร์ในช่องต่าง ๆ ให้แน่น เพื่อไม่ให้มีช่องว่างภายใน

เพดาน ก็เป็นส่วนที่ต้องการความมั่นคงแข็งแรงในด้านโครงสร้างเช่นกัน คือห้องโดยทั่วไปจะต้องมีฝ้าเพดาน จะเป็นวัสดุอะไรก็แล้วแต่ ความสำคัญของคร่าวเพดานจะต้องเป็นชนิดที่แข็งแรง ไม่ใช่คร่าวเพดานแบบแขวนรางอะลูมิเนียมซึ่งมักจะใช้กันทั่วไปตามสำนักงาน หรือบ้านจัดสรรราคาปานกลางก็นิยมใช้ แผ่นฝ้าเพดานจะวางอยู่บนโครงคร่าวเฉย ๆ เปอร์เซ็นต์แรงสั่นสะเทือนก็มี เมื่อเปิดเพลงให้คลื่นเสียงไปกระทบก็จะมีอาการแบบกระพือขึ้นลง วัสดุจะเป็นอะไรก็ได้แต่ต้องติดตาย ไม่มีการเลื่อนใด ๆได้เลย

ในแง่ของการจัดวางเครื่องเสียง ภายในห้องฟังเพลงโดยทั่วไปจะวางลำโพงแยก มีเครื่องเสียงวางอยู่ตรงกลาง เครื่องเสียงทีดีจะเจาะจงระยะการวางลำโพงให้ห่างกันมากน้อยเพียงไร และระยะห่างของลำโพงจะต้องพอดีกับระยะที่จะนั่งฟังด้วย อันนี้เป็นแบบทั่วไป เพราะเครื่องเสียงบางรุ่นเขาจะบอกว่า ลำโพงแบบนี้จะสามารถนั่งฟังได้ไม่ว่าอยู่ในส่วนใดของห้อง ซึ่งนักฟังชั้นเซียนก็ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้แล้วระยะการรับฟังของแต่ละคนจะไม่เท่ากัน รวมทั้งรสนิยมในการฟังด้วย บางคนอาจจะชอบใกล้มาก บางคนชอบให้ไกลออกไป

นอกจากระยะห่างระหว่างลำโพงกับลำโพง และลำโพงกับที่นั่งฟังแล้ว ลำโพงแต่ละตัวจะต้องมีระยะห่างจากผนังทั้งด้านข้างและด้านหน้าที่ไม่เหมือนกัน ความไพเราะส่วนหนึ่งของการฟังมาจากการวางห่างจากผนัง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องตายตัวอีกเช่นกัน เพราะห้องฟังเพลงแต่ละห้องก็ไม่เหมือนกัน ขนาดไม่เหมือนกัน และรสนิยมไม่เหมือนกัน ฉะนั้นระยะหางอาจขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ฟัง รวมทั้งระยะห่างของตำแหน่งการนั่งฟังด้วย

ในด้านเครื่องเรือน ที่นั่งฟังที่ดีจะเป็นโซฟาหรืออาร์มแชร์ที่นั่งสบาย ควรเป็นแบบลอยตัว หรือมีล้อเลื่อน เพื่อให้สามารถปรับระยะการรับฟังได้โดยง่าย ระยะของการวางเครื่องเรือนจึงควรมีเนื้อที่ว่างโดยรอบเอาไว้ ส่วนชั้นสำหรับเครื่องเสียงที่เป็นแบบแยกชิ้นมีความสำคัญมาก จริง ๆ แล้วชั้นวางเครื่องเสียงควรเป็นชั้นโปร่ง เปิดหมดทุกด้าน อาจจะเป็นเพราะตัวเครื่องเสียงมีความร้อนเกิดขึ้นยามใช้งาน หรือเพราะว่าสภาพแวดล้อม จึงควรให้มีอากาศถ่ายเทได้โดยรอบเครื่องเสียง เพื่อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการดูแลรักษาด้านหลังตัวเครื่อง ยิ่งถ้าเป็นเครื่องเสียงสมัยใหม่ยิ่งจำเป็นต้องใช้งานทั้งด้านหน้าและด้านหลังพร้อม ๆ กันไป คือมีความสำคัญเท่ากัน ด้านหลังควรได้รับการทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลา จำเป็นต้องดูแล ดูดฝุ่น ปัดฝุ่นตลอดเพื่อให้เสียงสะอาด ฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุด ควรเป็นชั่นโปร่งหมดทุกด้าน ทั้งด้านบน ด้านข้าง ด้านหลัง ยิ่งถ้าได้ด้านล่างด้วยก็ดี คือเป็นชั้นโปร่ง แผ่นเหล็กเจาะรูหรือไม้ระแนงก็ได้ ชั้นวางควรมีล้อเลื่อนด้วย เพื่อเวลาจะทำความสะอาดก็เลื่อนออกมา มันจะไม่กระเทือนต่ออุปกรณ์ชิ้นส่วนภายในตัวเครื่อง

จะมีชั้นพิเศษที่ใช้สำหรับวางเครื่องเล่นแผ่นเสียง ซึ่งมีความพิถีพิถันในการวางอย่างมาก เมื่อก่อนต้องใช้ชั้นที่แน่นหนา แข็งแรงมาก แต่ปัจจุบันเขาคิดว่าไม่ควรเป็นเช่นนั้น แท่นวางควรทำให้ขาตั้งนั้นเล็กที่สุด โดยเฉพาะส่วนปลายที่สัมผัสพื้น เล็กแหลมเป็นตะปูได้ยิ่งดี เพราะได้พิสูจน์แล้วว่า โต๊ะที่มีขาใหญ่โตดังที่เคยใช้มานั้น จะสามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้มากกว่าขาโต๊ะที่มีจุดรองรับเล็ก ๆ ซึ่งจะลดแรงสั่นสะเทือนได้ดีกว่า นอกจากนี้เครื่เงเล่นแผ่นเสียงไม่ควรวางขนานกับลำโพง และวางใกล้ไม่ได้ ปกติเขาจะแยกเครื่องเล่นแผ่นเสียงออกมาต่างหาก จะเป็นด้านข้างของห้องต่อสายไปสู่ลำโพงจะให้คุณภาพที่ดีกว่า

การตกแต่งและวัสดุที่ใช้ มักจะพูดกันโดยทั่วไปว่า ห้องฟังเพลงจะต้องตกแต่งด้วย วัสดุซับเสียงหรือพวกอะคูสติก เพื่อป้องกันเสียงสะท้อน แต่ปัจจุบันให้ความเห็นว่า ทั้งห้องจะเป็นวัสดุซับเสียงหมดไม่ได้ เพราะสิ่งของที่ใช้ตกแต่งหลายอย่างก็เป็นวัสดุซับเสียงอยู่แล้ว เช่น ผ้าม่าน พรม เป็นต้น โดยสมัยใหม่จะต้องประกอบด้วยวัสดุสะท้อนเสียงและซับเสียงที่สัมพันธ์กัน ตัวซับเสียงจะช่วยป้องกันเสียงสะท้อน ในขณะที่วัสดุสะท้อนเสียงจะช่วยให้เกิดความกังวานในการรับฟังได้ ฉะนั้นในห้องฟังเพลงอาจจะตกแต่งด้วยกระจกเงาก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นผนังหรือเพดาน แต่ไม่ควรแต่งแบบเต็มพื้นที่ ควรจะแต่งสลับกับวัสดุประเภทอื่นที่เป็นตัวซับเสียง แผ่นกระจกที่ใช้ตกแต่งห้องจะต้องติดอย่างแน่นหนาเป็นพิเศษ ต้องไม่ให้มีการสั่นสะเทือนในตัวเองได้เลย การเก็บเสียงหรือใช้อะคูสติกทั้งหมดจะทำให้เสียงตายไม่มีความลึก ด้านหลังของเครื่องเสียงลำโพงควรเป็นวัสดุที่อ่อนนุ่ม พวกพรมผืนก็ดี ด้านข้างเป็นวัสดุแข็งได้ ด้านบนควรเป็นวัสดุซับเสียง

เครื่องเสียงบางชนิดประเภท Component จะมีชั้นวางสำเร็จเป็นเหมือนตู้ มีบานเปิดเป็นกระจกใส แยกลำโพงออกมา อันนี้เพื่อความเหมาะสมในการป้องกันฝุ่น ซึ่งจะเป็นปัญหาอย่างมากกับเครื่องเสียง ไม่ควรทำตู้ฝังเครื่องเสียงให้ติดตายอยู่ภายในตู้ ถ้าจะทำเป็นตู้แบบติดตาย มีบานเปิดด้านหน้าซึ่งทำในลักษณะแบบ BUILT-IN เป็นตัวกั้นห้อง ควรที่จะสามารถเปิดด้านหลังซึ่งอยู่นอกห้องฟังเพลงออกไปได้ เพื่อที่สามารถแก้ไขหรือดูแลรักษาความสะอาดได้ตลอดและสะดวกในตู้ที่มีฝาปิดมิดชิด ด้านหลังของตู้ควรกรุกระจกเงา ดังที่บอกว่าเครื่องเสียงสมัยใหม่เวลาเล่นต้องใช้ทั้งด้านหน้าและหลังพร้อมกัน เมื่อต้องการจะปรับหรือแก้ไขสิ่งใด ก็ดูได้จากกระจกเงาด้านหลังของตู้ แต่ถ้าจะให้เหมาะที่สุดควรเป็นชั้นโปร่ง

เนื่องจากห้องฟังเพลงมักจะต้องเป็นห้องที่ไม่ต้องการให้เสียงภายนอกเข้าไปรบกวน จึงต้องมีการหมุนเวียนของอากาศหรือปรับสภาพของอากาศ หรือต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศ โดยทั่วไปนิยมใช้เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนหรือ SPLIT-TYPE ควรเป็นคุณภาพที่มีเสียงหรือแรงสั่นสะเทือนให้น้อยที่สุด เงียบมากที่สุดเป็นดี

เท่าที่กล่าวมา เป็นลักษณะของห้องฟังเพลงอย่างแท้จริง เป็นห้องของนักฟังเพลงโดยเฉพาะ ซึ่งโดยทั่วไปมักจะไม่เป็นเช่นนี้ และไม่ถึงขั้นนี้ เรามักจะเปิดฟังแบบสบาย ๆ ไม่ต้องยึดถือตามหลักทุกประการแต่ที่เสนอมาก็อยากให้มีความเข้าใจในบางส่วนของการที่จะใช้วัสดุการตกแต่งห้องอันจะมีผลต่อการรับฟังโดยตรง

แหล่งที่มา : www.bestroomstyle.com

จำนวนคนอ่าน : 31205 คน