เลือกซื้อระบบสัญญาณกันขโมยแบบมือโปร
6 มิ.ย. 2554

ปัจจุบัน ระบบสัญญาณกันขโมยสำหรับบ้านกำลังได้รับความนิยมจากผู้ใช้มากขึ้นเรื่อยๆ อันเนื่องมาจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จำนวนประชากรเข้ามาอยู่อาศัยในเขตเมืองเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนคดีลักทรัพย์ที่ยังคงสูงและเพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปี (เฉพาะในพื้นที่จังหวัดสงขลา สามารถจับกุมได้ประมาณ 15-20% ระบบ) สัญญาณกันขโมยสำหรับบ้านจึงนับเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ในการป้องกันทรัพย์สินและสมาชิกในครอบครัวของท่าน
ระบบสัญญาณกันขโมยบ้าน แตกต่างจากระบบสัญญาณกันขโมยรถยนต์เป็นอย่างมาก เนื่องจากระบบสัญญาณกันขโมยบ้านมีความซับซ้อนมากกว่า และต้องครอบคลุมพื้นที่เฝ้าระวังมากกว่า อีกทั้งจำนวนอุปกรณ์ตรวจจับต่างๆก็มีจำนวนมากกว่า (รถยนต์มีพื้นที่เฝ้าระวังเพียง 8-10 ตารางเมตร และมีทางเข้าออกไม่เกิน 6 จุด) ฉะนั้น ระบบสัญญาณกันขโมยบ้านที่ดีจึงจำเป็นต้องอาศัยโปรแกรมการจัดการที่สลับซับซ้อนและเทคโนโลยีชั้นสูงของอุปกรณ์ตรวจจับ เพื่อหลีกเลี่ยงการแจ้งเหตุที่ผิดพลาด (False Alarm ) และยังต้องคงความสะดวกและง่ายต่อการใช้งาน ซึ่งนับเป็นหลักสำคัญของระบบสัญญาณกันขโมยบ้าน
รูปแบบของระบบรักษาความปลอดภัยแบบอัตโนมัติ อาจมีการติดอุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหว (Motion Detector) มีไว้ในบริเวณต่างๆ ภายในบ้าน และชุดตรวจจับความผิดปกติตามประตู หน้าต่าง (Magnetic Sensor) เพื่อตรวจจับการงัดแงะ อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยกันทำงานแบบอัตโนมัติ ซึ่งถ้ามีความพยายามที่จะบุกรุกเพื่อเข้ามา หรือมีการงัดแงะ ทุบ ทำลายประตู หน้าต่าง อุปกรณ์จะส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์ควบคุมหลัก ( Control Panel ) ทันที พร้อมกับแสดงสัญญานเตือนภัยโดยเสียง แสงสว่าง และการแจ้งเตือนทางโทรศัพท์ โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบอื่นใด ( Self Monitoring over basic DTMF Telephone line ) ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้เราสามารถควบคุม และ เฝ้าระวังภัยได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก รวมทั้งส่งสัญญานเข้าศูนย์รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านหรือสถานีตำรวจเพื่อเข้าระงับเหตุ และตรวจสอบสถานที่ได้ทันที
ข้อควรพิจารณาในการเลือกซื้อระบบสัญญาณกันขโมยดังนี้
• ควรพิจารณาถึงประสบการณ์และความชำนาณด้านการผลิต อุปกรณ์รักษาความปลอดภัย
• พิจารณาถึงความสะดวกและง่ายต่อการใช้งาน เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้งานทุกวัน
• พิจารณาถึงความสามารถในการโปรแกรมระบบ ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตปรกติของท่าน เพราะสาเหตุของการ False Alarm ส่วนหนึ่งมาจากการใช้งานที่ไม่สะดวก
• ควรเลือกระบบที่สามารถจัดกลุ่มแบ่งโซนและสามารถโปรแกรมแต่ละโซนได้อิสระจากกัน เพื่อให้เปิดระบบได้แม้ยามที่คุณพักผ่อนในบ้าน
• ควรพิจารณาว่าชุดควบคุมมีการออกแบบให้วิเคราะห์ได้อย่างสมเหตุสมผลหรือไม่ เช่น หากคุณลืมปิดประตู-หน้าต่าง ระบบมีการจัดการอย่างไร สมเหตุสมผลหรือไม่? หากคุณเปิด
ระบบซ้ำโดยลืมปิดระบบ ระบบจะจัดการอย่างไร? หากมีการแจ้งเหตุทางโทรศัพท์เมื่อมีการ Alarm และโทรไม่ติดหรือไม่มีผู้รับสาย ระบบจะจัดการอย่างไร?
• สิ่งสำคัญที่สุดคือ ระบบต้องมีความแม่นยำ ไม่แจ้งเหตุที่ผิดพลาด และต้องใช้งานง่าย
• อย่าพิจารณาในเรื่องของราคาเป็นหลักเพียงอย่างเดียว ควรพิจารณาประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้งานด้วย เพราะหากตัดสินใจซื้อโดยไม่สามารถตอบสนองได้ทั้งความ
สะดวกในการใช้งานและความแม่นยำของระบบ ก็จะนำมาซึ่งความเบื่อหน่ายในการใช้งาน และหยุดใช้ในที่สุด เป็นการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์