/home/homedecor/domains/www1.homedecorthai.com/public_html/templates/default/ext/ui/article_detail.tpl.php ปรับเปลี่ยนโฉมบ้านให้ประหยัดพลังงาน
 
 
    
   
     
     
   
 

ปรับเปลื่ยนโฉมบ้านใหม่ให้ประหยัดพลังงาน

14 ธ.ค. 2555

 

ปรับเปลี่ยนโฉม “บ้าน” ให้ประหยัดพลังงาน

 
        1. การปรุงแต่งสภาพแวดล้อมให้เอื้ออำนวยต่อการประหยัดพลังงาน หัวใจสำคัญของหลักการข้อนี้  คือ “การลดความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างภายนอกและภายในอาคาร”  คือการทำให้สภาพแวดล้อมนั้นเย็นที่สุดสำหรับเมืองไทย หรือเอื้อต่อการประหยัดพลังงาน หากเป็นไปได้คือการทำให้บริเวณนั้นเย็น และไม่ชื้นเนื่องจากเมืองไทยเป็นเมืองร้อนชื้นหลักการโดยย่อ คือการเลือกใช้วัสดุปูผิวดินที่มีค่าการดูดซับความร้อนต่ำ และมีค่ากระจายความร้อนสูง ได้แก่ การใช้ประโยชน์จากต้นไม้ พืชคลุมดินดินโดยจะหลีกเลี่ยงวัสดุจำพวก ผิวยางมะตอยบล็อกปูถนนสีเข้มและหาทางทำให้ไม่มีจุดอับลม ทำให้มีเครื่องกีดขวางน้อยเพื่อให้ลมโกรก
 


 

     2. การเลือกรูปแบบที่เหมาะสม ปัจจัยข้อนี้ มีหลักควรปฏิบัติ คือ การจัดหารูปทรงที่สามารถนำประโยชน์จากธรรมชาติมาใช้ได้สูงสุด โดยพยายามทำให้มีพื้นที่ผิวของอาคารน้อยที่สุด โดยขอยกตัวอย่างการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ ดังนี้

- การใช้ประโยชน์จากลมธรรมชาติ เนื่องจากประเทศไทยจะมีลมมาจากกรอบทิศตลอดทั้งปี จึงควรออกแบบบ้านให้สามารถใช้ประโยชน์จากลมที่พัดมาได้ในทุกทิศทาง

การใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติ แนวความคิดที่สำคัญ คือลดการใช้พลังงานจากแสงประดิษฐ์หรือหลอดไฟต่าง ๆ และใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติในเวลากลางวันที่ดีกว่าแสงประดิษฐ์ ดังนั้น ในการออกแบบจึงควรใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงรังสีโดยตรงจากดวงอาทิตย์ เช่น มีส่วนยื่นของอาคาร แผงบังแดด ต้นไม้รอบบริเวณบ้าน เป็นต้น

การออกแบบโดยหลีกเลี่ยงไม่ให้กระจกรับแสงอาทิตย์โดยตรง เนื่องจากกระจกเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติในการยอมให้ทั้งแสงและความร้อนส่งผ่านเข้าสู่ภายในอาคารได้ การใช้กระจกมีข้อดีทั้งเรื่องของความสวยงามและทัศนวิสัยของผู้อาศัย ดังนั้น เพื่อเป็นการลดภาระการทำความเย็นในบ้านจึงต้องหลีกเลี่ยงจุดที่จะติดตั้งกระจกไม่ให้รับแสงอาทิตย์โดยตรง

การใช้ประโยชน์จากความเย็นในเวลากลางคืน เช่น การใช้ประโยชน์จากระเบียงขนาดใหญ่ เพื่อช่วยสร้างความเย็นให้แก่อาคารในเวลากลางคืน เนื่องจากอุณหภูมิบริเวณหลังคาจะต่ำกว่าอุณหภูมิของอากาศ อากาศเย็นจากหลังคาจะไหลลงมาสะสมบริเวณระเบียงและเมื่อลมพัดเข้าสู่ตัวอาคารจะนำอากาศเย็นเข้าสู่ตัวอาคารด้วย เป็นต้น
 

     3. การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ต้องคำนึงถึงทั้งการป้องกันผลเสียและการเลือกใช้ข้อดีของอากาศร้อนชื้น สามารถใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติ ฉนวนที่สามารถป้องกันได้ทั้งจากความร้อนและความชื้น ระบบควบคุมที่ไม่เสีย และไม่เป็นสนิมง่าย รวมทั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องมีการประยุกต์ให้เหมาะสมกับเมืองร้อนชื้น ห้ามนำเอาเทคโนโลยีสำหรับเมืองหนาวมาใช้โดยตรง เป็นต้น
 

       4. การเลือกใช้วัสดุประเภทต่าง ๆ หลักการที่สำคัญที่สุด ของการเลือกวัสดุสำหรับบ้านในภูมิอากาศร้อนชื้น คือ “คุณสมบัติที่สามารถกันได้ทั้งความร้อนและความชื้น” โดยสามารถแบ่งวัสดุได้เป็น 2 ประเภท คือ

- วัสดุทึบแสง ได้แก่ ผนัง ซึ่งเน้นที่ให้มีค่าสัมประสิทธิ์การถ่ายเทความร้อนรวมต่ำ (ค่า U ต่ำ) เช่น ผนังฉนวนกันความร้อนภายนอก ที่มีคุณสมบัติในการกันความร้อนและความชื้นได้ดีกว่าผนังอิฐฉาบปูนที่ใช้กันอยู่ทั่วไป วัสดุทึบแสงอีกประเภท คือหลังคาต้องเลือกวัสดุที่มีคุณสมบัติกันรั่วได้ 100% มีความสวยงามคงทนถาวร และไม่มีปัญหาหลุดร่อนปลิวเมื่อมีลมมาปะทะแรง ๆ นอกจากนั้น ยังควรเพิ่มชั้นของฉนวนป้องกันความร้อนไม่ให้เข้าสู่ตัวบ้านเพิ่มชั้นของช่องว่างอากาศเพื่อเพิ่มค่าความเป็นฉนวนให้กับหลังคา ส่วนชั้นล่างสุดเป็นยิปซัมเพื่อความสวยงามเรียบร้อย

วัสดุโปร่งแสง ได้แก่ กระจก เนื่องจากกระจกมีค่าการนำความร้อนที่ดี จึงมีการถ่ายเทความร้อนเข้าสู่อาคารมาก แต่การนำกระจกมาใช้ในอาคารก็มีข้อดีในเรื่องของการนำแสงธรรมชาติเข้าสู่อาคารได้ ดังนั้น จึงควรใช้กระจกที่สามารถนำแสงธรรมชาติเข้าสู่อาคารให้ได้มาก แต่ต้องยอมให้ความร้อนเข้ามาได้น้อย

 
       5. การเลือกอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงาน การเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานในบ้าน ปัจจัยหนึ่งคือการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน ที่ใช้ไฟฟ้าน้อยแต่มีประสิทธิภาพในการทำงานมาก ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยมีการจัดทำฉลากประหยัดไฟ เพื่อแสดงถึงประสิทธิภาพการประหยัดไฟ โดยแบ่งเป็นเบอร์ 1 คือมาตรฐานต่ำ จนถึงเบอร์ 5 คือมาตรฐานดีมาก นอกจากการเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าประหยัดไฟ การจัดวางอุปกรณ์ก็มีส่วนช่วยในการป้องกันความร้อนเข้าสู่ภายในบ้าน เช่น การวางตู้เย็นไว้นอกบ้าน รวมทั้งการเปลี่ยนอุปกรณ์ที่มีความเสียหายเพื่อไม่ก่อให้เกิดปัญหาการสิ้นเปลืองพลังงานและอาจสร้างความเสียหายในด้านอื่นๆตามมา
 
        6. การคำนึงถึงผู้ใช้งานและการบำรุงรักษา คือการคิดถึงกิจกรรมของผู้ใช้งานในแต่ละภาคส่วนของบ้าน ตัวอย่างเช่น ห้องรับแขกจะมีการปรับอากาศให้เย็นกว่าจุดอื่น ๆ เพื่อปรับอุณหภูมิร่างกายของที่มาเยือนให้รู้สึกเย็นสบาย ห้องนอนต้องมีความเป็นส่วนตัว และห้องน้ำต้องสามารถทำให้แห้งได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งการคำนึงที่ตั้งของของใช้ต่าง ๆ ที่สะดวกต่อการใช้งานและการซ่อมแซม ไม่ตั้งอยู่ในที่ที่มีแดดจัด และอับลม และไม่ทำให้สภาพแวดล้อมบริเวณนั้นมีคุณภาพแย่ลง  หากปรับปรุงบ้านตามหลักการเบื้องต้นนี้ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะประหยัดพลังงานลงได้ไม่น้อยกว่า 30% และการลดภาวะโลกร้อนด้วยการประหยัดพลังงานในบ้านจะเป็นเรื่องที่ไม่ยากที่จะทำ
 

 


แหล่งที่มา : www.posttoday.com
จำนวนคนอ่าน : 21595 คน

บทความที่ใกล้เคียงกัน :

 

ไอเดียมาใหม่ใน"บริษัทรับสร้างบ้าน"

บริษัทรับสร้างบ้าน

เรื่องหงุดหงิดใจจากบ้านใกล้เรือนเคียง..

21 ก.ค. 2554
เรื่องหงุดหงิดใจจากบ้านใกล้เรือนเคียง..

เรื่องการปลูกบ้านติดกันเป็นปัญหาอย่างหนึ่งที่อาจนำพาให้ผู้อาศัยทะเลาะกับเพื่อนบ้านได้ อย่างเช่น เสียงดังรบกวน กิ่งไม้และผลไม้ที่ยื่นล้ำเข้ามาในบ้านจะเป็นของใคร วันนี้เรามีวิธีแก้ไขมาฝากกันค่ะ    Read more

ไอเดียบ้านง่ายๆ อยู่สบายแบบไทย

20 ก.ค. 2554
ไอเดียบ้านง่ายๆ อยู่สบายแบบไทย

เมื่อเราพูดถึง บ้าน ในประเทศไทย หลายคนอาจนึกถึงบ้านโมเดิร์นที่เห็นกันอยู่มากมายในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นบ้านจัดสรร หรือบ้านที่ออกแบบใหม่ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าบ้านเหล่านั้นจะอยู่สบายจริงหรือไม่ สิ่งนี้ขึ้นอยู่กับแนวคิดและรายละเอียดของการออกแบบ บ้านที่เหมาะสมต้องคิดถึงเรื่องการกันแดดกันฝนและทิศทางการระบายอากาศที่ดี    Read more

4 วิธีจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้สะดุดตา

18 ก.ค. 2554
4 วิธีจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้สะดุดตา

ถ้าคุณเบื่อการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในห้องนั่งเล่นเดิมๆ ถ้าลองย้าย หรือสลับมุมบ้างก็น่าจะดี แต่จะทำอย่างไรยังนึกไม่ออกเลย ... ไม่ต้องกังวล วันนี้เรามี 4 วิธีจัดห้องรับแขก ที่ทำง่าย โดนใจ และยังคงการใช้งานไว้ได้อย่างครบถ้วน    Read more

จัดบ้านดีเพื่อชีวิตที่รุ่งเรือง

18 ก.ค. 2554
จัดบ้านดีเพื่อชีวิตที่รุ่งเรือง

การจัดบ้านเพิ่มเสริมโชคลาภทำให้ชีวิตรุ่งเรืองจะทำให้คนที่อยู่ในบ้านมีชีวิตที่ดีขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น เราจึงควรมาจัดบ้านเสริมให้ชีวิตรุ่งเรืองกันเถอะค่ะ    Read more

3 องค์ประกอบของการตกแต่งบ้าน

7 ก.ค. 2554
3 องค์ประกอบของการตกแต่งบ้าน

อย่างไรก็ตามวันนี้ homedecorthai จะขอแนะนำ 3 องค์ประกอบที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง องค์ประกอบเหล่านี้จะทำให้บ้านของคุณออกมาดูดี พร้อมทั้งสร้างความรู้สึกดีๆ ให้แก่ผู้อยู่อาศัย ซึ่งก็คือตัวคุณและคนในครอบครัว เพื่อให้บ้านไม่ได้เป็นแค่ บ้านพักอาศัย แต่เป็นสถานที่แบ่งปันความรู้สึกร่วมกัน    Read more
Topics 31 - 35 of 37

ชมไอเดีย "บริษัทรับสร้างบ้าน" ทั้งหมด