|
การตรวจสอบและซ่อมแซมอาคาร บ้านเรือน หลังน้ำท่วม
หลังจากน้ำลดแล้วยังต้องมาพบกับปัญหาต่างๆเกี่ยวกับบ้านที่ต้องรีบแก้ไขเร่งด่วน โดยเฉพาะโครงสร้างบ้านถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในด้านความปลอดภัย จึงควรรีบตรวจสอบโดยสังเกตอาการและแนวทางการแก้ไขดังต่อไปนี้
|
 |
-
รั้วบ้านเอียง ถ้าเอียงมากจนออกนอกแนวศูนย์ถ่วง รั้วอาจล้มลงได้ ให้รีบซ่อมแซมกลับมาให้ได้แนวตรงเหมือนเดิม ถ้าถูกน้ำเซาะจนฐานรากโผล่หรือเห็นลอยตั้งอยู่บนเสาเข็ม ให้เอาดินถมกลับคืนไป มิฉะนั้นเสาเข็มอาจหักทำให้รั้วพังลงมาได้ ส่วนรั้วทรุดตัวไม่เท่ากัน ต้องให้ช่างผู้ชำนาญมาทำการเสริมฐานรากยกกลับขึ้นมาให้อยู่ในระดับเดิม
|
-
อาคารทรุดเอียง จะต้องดีดยกอาคารและเสริมฐานรากโดยต้องปรึกษาวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ
|
-
ฐานรากถูกน้ำเซาะ ถ้าฐานรากถูกน้ำเซาะจนดินที่ห่อหุ้มฐานรากหายไป เมื่อตรวจดูแล้วพบว่าฐานรากยังตั้งตรงอยู่ในสภาพปกติไม่ทรุดไม่แตกร้าว ก็ให้ถมดินกลับคืนไป แต่ถ้าฐานรากเกิดเอียง หรือทรุดตัวลงหรือแตกร้าว อันนี้คงแก้ไขเองไม่ได้ ต้องให้วิศวกรมาตรวจสอบเพื่อแก้ไขซ่อมแซมต่อไป
|
-
เสา แตก หัก ร้าว ถ้าเป็นเสาไม้รับน้ำหนักไม่มากอาจพอหาช่างมาแก้ไขได้ แต่ถ้าเป็นเสาคอนกรีตหัก หรือมีรอยร้าวเป็นแนวเฉียง หรือมีรอยร้าวบริเวณรอยต่อเสาคาน หรือผิวปูนแตกจนเห็นเหล็กเสริมในเสาหรือเสาเอียง ควรให้วิศวกรมาตรวจสอบแก้ไขทันที เนื่องจากเสาดังกล่าวอาจสูญเสียกำลังในการรับน้ำหนักและพังทลายลงมาได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยอย่างยิ่ง
|
-
คาน แตก ร้าว หัก ถ้าเป็นคานไม้สังเกตได้ไม่ยาก คานหักหรือแตกก็ยังพอให้ช่างมาดามด้วยไม้หรือเหล็ก หรือเปลี่ยนไม้ใหม่ให้ได้ แต่ถ้าเป็นคอนกรีตหัก หรือมีรอยแตกร้าว โดยรอยแตกของรอยร้าวกว้างมากกว่า 0.5 มิลลิเมตร ควรให้วิศวกรมาตรวจสอบแก้ไขจะปลอดภัยกว่า แต่ถ้าหากรอยแยกกว้างน้อยกว่า 0.5 มิลลิเมตร อาจต้องตรวจดูรอยร้าวในเนื้อคานคอนกรีต โดยให้สกัดเฉพาะปูนฉาบออกเพื่อดูว่ามีรอยร้าวที่เนื้อคอนกรีตหรือไม่ หากไม่มีรอยร้าวก็ถือว่าปลอดภัย แค่ฉาบปูนตกแต่งปิดให้เรียบร้อยตามเดิมก็พอ แต่หากพบรอยร้าวที่เนื้อคอนกรีต ควรให้วิศวกรมาตรวจสอบแก้ไข
|
-
ผนังแตกร้าว ผนังคอนกรีตหรือผนังก่ออิฐฉาบปูนแตกร้าวเป็นเส้นลายงาเล็กๆ โดยทั่วไปแล้วมักจะไม่มีอันตรายอะไร สามารถแก้ไขได้โดยอุดรอยร้าวด้วยสีโป๊ หรืออะครีลิก หรือสารเคมีช่วยประสานรอยต่อแล้วทาสีอีกชั้นหนึ่ง แต่ถ้าผนังแตกร้าว โดยมีรอยแตกกว้างและยาวอย่างเห็นได้ชัดเจนมาก และมักจะทะลุถึงอีกด้านหนึ่งของผนัง แสดงว่าอาจเกิดการแอ่นตัวหรือการทรุดตัวที่ไม่เท่ากันของโครงสร้างอาคาร ควรรีบไปปรึกษาวิศวกรเพื่อช่วยในการตรวจสอบแก้ไข
|
-
พื้น แตก ร้าว รุด สำหรับพื้นไม้แตกร้าวหรือหัก คงแก้ไขได้ไม่ยาก โดยใช้ไม้พื้นขนาดเดียวกันถอดเปลี่ยนเข้าไปแทน ส่วนพื้นคอนกรีตชนิดวางบนดินเกิดการทรุดตัวแตกร้าวมาก อาจซ่อมแซมโดยรื้อพื้นนั้นออกและลอกดินโคลน หรือดินอ่อนออกแล้วถมกลับด้วยทรายราดน้ำอัดแน่น จากนั้นจึงผูกเหล็กเทพื้นคอนกรีตใหม่ แต่ถ้าเป็นพื้นคอนกรีตที่อยู่บนคานหรือมีโครงสร้างอื่นรองรับ เกิดรอยแตกร้าวอย่างชัดเจน คงต้องให้วิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตรวจสอบแก้ไขจะปลอดภัยกว่า
|
-
บันได ผุ หัก ร้าว ถ้าเป็นบันไดไม้คงแก้ไขได้ไม่ยาก สามารถซื้อไม้ขนาดเดียวกันมาซ่อมแซมแก้ไขไปได้ แต่ถ้าเป็นบันไดเหล็กเกิดผุหรือหักคงตามช่างเหล็กมาซ่อมแซม สำหรับบันไดคอนกรีตซึ่งมีน้ำหนักมากและบันไดก็มีหลายรูปแบบ เช่น บันไดแบบที่เป็นพื้น แบบที่มีคานแม่บันได และแบบพื้นยืน ซึ่งแต่ละแบบมีพฤติกรรมแตกต่างกันไป ดังนั้น หากมีความเสียหาย การตรวจสอบแก้ไขควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของวิศวกรจะดีกว่า
|
 |
|
ในส่วนระบบไฟฟ้าภายในบ้านจะประกอบไปด้วย แผงสวิตช์ไฟฟ้า เช่น แผงคัทเอาต์ แผงสวิตช์ตัดตอนอัตโนมัติ เป็นแผงควบคุมไฟฟ้าภายในบ้านที่ต่อจากมิเตอร์ของการไฟฟ้าฯ
|
-
คัตเอาต์ ปัจจุบันใช้น้อยลงมาก ประกอบด้วย ฐานคัตเอาต์ทำด้วยกระเบื้อง มีสะพานไฟเป็นทองแดงพร้อมคันโยกกระเบื้อง สำหรับยกขึ้นเพื่อตัดและต่อไฟจากการไฟฟ้าหลังสะพานไฟที่มีคันโยกมีฟิวส์ตะกั่วต่ออยู่เพื่อป้องกันกระแสเกิน บางบ้านอาจมีฟิวส์ลูกถ้วยต่ออยู่ด้วย ภายหลังน้ำลดให้สำรวจตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านทั้งหมด หากพบว่าอุปกรณ์อยู่ในสภาพแห้งพร้อมใช้งานไม่มีส่วนใดแช่น้ำอยู่ ให้ทดลองยกสะพานไฟของคัทเอาต์ขึ้น ถ้าฟิวส์ไม่ขาดแสดงว่าระบบไฟฟ้าใช้ได้อยู่ ถ้าฟิวส์ขาดต้องตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป
|
-
แผงสวิตช์อัตโนมัติ สังเกตได้ว่าจะเป็นตู้เหล็ก หรือตู้พลาสติกที่ต่อรับไฟฟ้าจากมิเตอร์ของการไฟฟ้าเช่นเดียวกับคัทเอาต์ ปัจจุบันมีใช้มากขึ้นกับบ้านรุ่นใหม่ๆ และจะแบ่งวงจรไฟฟ้าง่ายๆ เป็นชั้นบนกับชั้นล่าง และยังแบ่งออกไปอีกเป็นวงจรปลั๊ก วงจรโคมไฟ วงจรแอร์ วงจรเครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งควบคุมด้วยสวิตช์อัตโนมัติของแต่ละวงจรการตรวจสอบ แผงสวิตช์อัตโนมัติให้ใช้ดึงคันโยกของสวิตช์อัตโนมัติเมนและย่อยแต่ละตัวลงก่อน แล้วทดลองยกคันโยกของสวิตช์ตัวเมนขึ้น แล้วค่อยยกคันโยกสวิตช์ย่อยขึ้นทีละตัว ถ้าตัวไหนตกลงมาแสดงว่าวงจรนั้นมีปัญหา หรือเมื่อยกสวิตช์ย่อยขึ้นทำให้ตัวเมนตกลงมาวงจรย่อยนั้นมีปัญหาที่จะต้องตรวจสอบต่อไป สำหรับตัวสวิตช์ย่อยที่ยกขึ้นแล้วไม่ตกลงมาสามารถใช้งานได้ตามปกติ
|
-
ปลั๊กและสวิตช์ไฟฟ้าขณะน้ำท่วมไม่มีการใช้งาน ให้ถอดออกมาทำความสะอาดและทำให้แห้งก่อนต่อกลับที่เดิม ควรมีความรู้ด้านเทคนิคพอสมควรและทดลองใช้งาน ทั้งนี้ ก่อนทำต้องดึงคัทเอาต์หรือสวิตช์อัตโนมัติลงก่อน แล้วใช้ไขควงสำหรับเช็กไฟฟ้า หรือเครื่องวัดไฟฟ้าวัดดูก่อนว่าไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านมาที่สวิตช์ หรือปลั๊ก เมื่อทดลองใช้งานปลั๊กกับสวิตช์แล้ว ไม่ได้ให้เปลี่ยนเป็นจุดๆ ไป
|
-
ปลั๊กไฟฟ้าที่น้ำท่วมถึงควรยกตำแหน่งให้สูงขึ้น จะสังเกตจากคราบน้ำท่วม และควรแยกวงจรปลั๊กไฟฟ้าจะสะดวกในการใช้งานในอนาคต และควรให้ช่างไฟฟ้าดำเนินการ
|
-
การตรวจไฟฟ้ารั่วเบื้องต้น ปิดเครื่องไฟฟ้าในบ้านทั้งหมด จากนั้นให้สังเกตการหมุนของมิเตอร์ หากมิเตอร์ยังหมุนอยู่แสดงว่ามีไฟรั่วให้ปิดคัทเอาต์ลง จากนั้นไปตามช่างของการไฟฟ้าหรือช่างผู้มีความรู้ด้านไฟฟ้ามาตรวจสอบ อย่าพยายามแก้ไขเอง เนื่องจากอาจถูกไฟดูดเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
|
-
เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ตู้แช่ เครื่องซักผ้า หรือมอเตอร์ปั๊มน้ำ ถ้ายกหนีน้ำท่วมไม่ทันหรือแช่น้ำอยู่ โดยทั่วไปจะเสียหายจะใช้งานไม่ได้ทันที แม้จะแห้งแล้วก็ตาม ควรให้ช่างผู้ชำนาญเป็นผู้ดำเนินการตรวจเช็ก หรือซ่อมเสียก่อน ถึงจะต่อไฟฟ้าใช้งานต่อไป.
|