/home/homedecor/domains/www1.homedecorthai.com/public_html/templates/default/ext/ui/article_detail.tpl.php ทาสีให้บ้านด้วยตัวเองอย่างง่ายๆ
 
 
    
   
     
     
   
 

ทาสีให้บ้านด้วยตัวเองอย่างง่ายๆ

21 ก.ค. 2554

ทาสีให้บ้านกับช่างแมน

 

อันว่าการทาสีบ้านนั้น หากจะทำให้ถูกวิธี นอกจากเราจะต้องรู้จักเรื่องสีตามที่เราเคยคุยกันไว้ในคราวที่แล้ว เรายังจะต้องรู้จักขั้นตอนและเทคนิคต่างๆ ในการทาสีอีกด้วย เริ่มกันตั้งแต่การเตรียมพื้นผิวเลยดีกว่านะครับ

พื้นผิวที่ดีและเหมาะสมกับการทาสี จำเป็นที่จะต้องเรียบ เนียน สะอาด ปราศจากฝุ่น หากมีรู มีร่องมีรอยอะไรก็แล้วแต่ เราก็ควรจะจัดการอุด ปะ และขัดซะให้เรียบร้อย เพราะสีก็เป็นแค่เนื้อฟิล์มบางๆ หากพื้นที่ที่ทาสี มีฝุ่น มีหลุม หรือมีร่อง ทาสีเสร็จ ก็จะเห็นชัด ดังนั้น หากต้องการงานทาสีที่เรียบเนียน สวย เราก็ควรจะเตรียมพื้นผิวให้ดีเสียก่อนนะครับ

ขั้นตอนแรกของการเตรียมพื้นผิว เราจะต้องเริ่มกันที่การขัดผิวก่อนนะครับ การขัดผิวนั้นเป็นหัวใจสำคัญของงานทาสีที่มีคุณภาพ เพราะจะช่วยให้พื้นผิวของเราเพิ่มขีดความสามารถในการยึดเกาะสีได้ดี แต่อย่าลืมใส่หน้ากากกรองฝุ่นสักหน่อยนะครับ จะได้ไม่หายใจเอาฝุ่นเข้าไปในปอดสวยๆ ของเรา

นอกจากนี้ บางทีช่างที่มีฝีมือดีๆ เขามักจะล้างผนังกันซะรอบหนึ่งแล้วปล่อยให้แห้งสนิทก่อนลงมือทาสี ซึ่งเหตุผลของการล้างผนังนั้นคือเพื่อล้างฝุ่นที่มักเกาะอยู่ตามผนังให้หลุดออกให้หมดเสียก่อน โดยขั้นตอนของการล้างผนัง ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพียงแต่ใช้น้ำสบู่อ่อนๆ ล้างผนังให้ทั่ว จากนั้นค่อยล้างด้วยน้ำเปล่าอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็รอให้แห้ง (โดยปกติ ก็ประมาณ 1 วัน ดังนั้น เราจึงควรบวกเวลาเตรียมพื้นผิวในระยะเวลาทำงานเผื่อไปด้วยนะครับ)

สำหรับผนังหรือเพดานที่มีสีเดิมทาทับอยู่แล้ว ให้ดูว่าสีเก่านั้นหมดอายุหรือยัง หากยังติดแน่นทนทานดีอยู่ เราก็ขัดด้วยกระดาษทรายสักรอบหนึ่ง ก่อนที่จะล้างทำความสะอาด แล้วรอให้ผนังแห้ง แต่ถ้าสีหมดอายุแล้ว งานนี้ คงต้องหาลูกมือมาคอยช่วย เพราะสีเก่าจะเป็นฝุ่น ดังนั้น เราจึงต้องทำการล้างเอาฝุ่นสีเก่านั้น ออกให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แล้วทำการหาสีรองพื้นปูนเก่า Bager B-11090 หรือน้ำยารองพื้นสีปูนทับสีเก่า TOA Supershield Duraclean เป็นต้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการยึดเกาะของสี ก่อนที่จะทาสีจริงทับ อันนี้จำเป็นมากๆ เลยนะครับ

ส่วนผนังที่เคยติด Wallpaper มาแล้ว ขั้นตอนก็จำเป็นต้องใช้แรงงานมากขึ้นไปอีก เพราะต้องลอก Wallpaper เก่าพร้อมด้วยคราบกาวทุกชนิดออกให้หมด จากนั้นจึงเริ่มขั้นตอนการเตรียมพื้นผิว ก่อนที่จะลงสีรองพื้นครับผม

ภายหลังจากที่เรารอผนังให้แห้งแล้ว เราก็จะเริ่มทำการทาสีรองพื้นกันซัก 1-2 เที่ยวเสียก่อน โดยผมเคยอธิบายไปแล้วว่าเจ้าสีรองพื้นนี้มีข้อดีอย่างไรบ้าง เพียงแต่เราจะต้องเลือกสีรองพื้นให้ถูกชนิดจะช่วยให้เราประหยัดสีจริงได้มากเลยทีเดียว (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พื้นผิวที่เป็นวัสดุพรุนอย่าง ยิปซั่ม แผ่น MDF หรือแม้กระทั่งแผ่น Viva board หากเราไม่ทาสีรองพื้นสำหรับวัสดุพวกนี้ เราจะต้องจ่ายค่าสีเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 1 เท่าตัวเลยทีเดียวครับ)

ขั้นตอนที่สำคัญอีกขั้นหนึ่งก่อนการลงมือทาสี คือเราควรจะทำการป้องกันส่วนที่เราไม่ต้องการให้สีเปื้อน ยกตัวอย่างเช่น โคมไฟ บัวพื้น บัวเพดาน หรือกรอบประตูหน้าต่าง ให้มิดชิดด้วยกระดาษกาวและกระดาษหนังสือพิมพ์ และเราควรระวังกระดาษกาวคุณภาพต่ำ หรือเสื่อมคุณภาพ เพราะแทนที่จะช่วยป้องกันสีเลอะ กลับจะดูดสีของส่วนอื่นๆ ให้หลุดออกมา เดือดร้อนเราต้องตามเก็บสีในภายหลังอีก สำหรับกระดาษกาวที่ผมแนะนำ จะเป็นของญี่ปุ่นนะครับ ยี่ห้อนิตโต้ ม้วนหนึ่งตกประมาณ 35 – 40 บาท อาจจะดูแพงไปสักหน่อย (เพราะต้องซื้อหลายม้วน ในกรณีที่มีพื้นที่เยอะๆ) แต่คุ้มกว่ามากครับ และในแนวที่มีการเปลี่ยนสี เช่นสีของผนังกับสีของฝ้าเพดาน เราก็จะสามารถใช้กระดาษกาวกับกระดาษหนังสือพิมพ์ในการกันแนวรอยต่อได้ด้วย พอทาสีฝ้าเพดานเสร็จ เราก็จะกันไม่ให้สีผนังไปเลอะส่วนฝ้าเพดาน พอลอกกระดาษออก รอยต่อก็จะเรียบและคมแบบมืออาชีพเลยครับ..

ต่อไปเป็นขั้นตอนการทาสีจริงละครับ ในการทาสีจริง เราจำเป็นต้องรู้เสียก่อนว่าเราจะทาอะไรบ้าง แล้วจึงจัดลำดับการทาให้ถูกต้อง โดยปกติแล้ว เราจะทาสีฝ้าเพดานก่อนแล้วค่อยทาสีผนัง จากนั้นถึงจะทาสีส่วนประตูและหน้าต่างพร้อมทั้งส่วนประกอบเล็กๆ น้อยๆ อื่นๆ ครับ ถ้าจะให้จำง่ายๆ คือทาพื้นผิวส่วนใหญ่ที่อยู่ข้างบนก่อน แล้วค่อยไล่ลงมาข้างล่าง จากนั้นจึงเก็บรายละเอียดของงาน (ดูจากภาพประกอบ)

ในการทาสี ถ้าเราต้องการให้สีเรียบเนียนสวย เราจะเริ่มทาจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง (อันนี้แล้วแต่ถนัดนะครับ) ทีละผนังจนครบทั้งห้อง โดยให้แนวของแปรงขนานกันไปเรื่อยๆ 
จนครบเต็มผนัง อย่าหยุดหรือพักทาสีขณะที่อยู่แนวกลางผนัง พยายามทาให้เสร็จไปเป็นผนังๆ ไป เพื่อป้องกันสีแห้งตัวไม่เท่ากัน และอาจจะเกิดอาการสีด่างได้

หลังจากทาสีไปแล้ว ก็ให้รอสีแห้งตัวตามที่ระบุไว้ในคู่มือของสีแต่ละยี่ห้อ โดยการแห้งตัวของสีแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือแห้งแบบแตะได้ กับแห้งแบบทาสีทับได้ การแห้งแบบแตะได้ เป็นการแห้งเฉพาะผิวหน้าเท่านั้น ส่วนการแห้งแบบทาสีทับได้ จะแห้งสนิทกว่า โดยมากแล้วจะกินเวลาประมาณ 4 ชั่วโมงครับ หลังจากนั้น เราจึงจะทาสีทับไปอีกทีละชั้น (ปกติ เราจะทาประมาณ 2-3 เที่ยว) จนกว่าสีจะ “ขึ้น” หรือจนกว่าเราจะได้สีที่เรียบเนียนสวย ปิดทับสีเดิมของพื้นผิวได้อย่างสมบูรณ์ ถ้าสียังไม่ขึ้น แสดงว่าเราอาจจะทาสีบางเกินไป หรือผสมตัวทำละลายมากเกินไปก็ได้ ให้ลองตรวจดูส่วนผสมใหม่อีกครั้งนะครับ

ภายหลังจากที่สีแห้งแล้ว สีจะดูขาวขึ้นกว่าตอนที่ทาเสร็จใหม่ๆ ที่เป็นแบบนี้ เป็นเพราะน้ำหรือสารละลายในสีได้ระเหยออกไป ซึ่งสีสุดท้ายที่ได้ตอนที่แห้งแล้ว ควรจะตรงกับสีที่เราเลือกไว้นะครับ เพราะฉนั้นอย่าตกใจที่เวลาทาสีแล้ว สีจะดูเข้มกว่าที่เราเลือก เพราะสุดท้าย มันจะกลับมาเป็นอย่างที่เราต้องการครับ

หากเราทาสีไม่เสร็จ และต้องทำต่อในวันถัดไป ให้เราเก็บสีที่เหลือไว้ในกระป๋อง ปิดฝาให้สนิท ไม่ให้อากาศภายนอกเข้าไปได้อีก และทางที่ดีควรจะกลับกระป๋องคว่ำลงสัก 2-3 วินาที เพื่อให้สีบางส่วนไปเคลือบที่ฝา จะช่วยแก้ปัญหาสีแห้งตัวเป็นแผ่นฟิลม์ได้ครับ..แน่ะ..เคล็ดลับเชียวนะครับนี่..

 

ในการทาสี บางครั้ง เราซื้อสีมาเป็นถังใหญ่ การที่เราจะเปิดฝาถังทิ้งไว้คงไม่ดีแน่ ดังนั้นช่างสีจึงมักจะหากระป๋องเล็กๆ มาแบ่งใส่สีไว้ตามปริมาณที่ต้องการใช้ พอหมดแล้วค่อยไปเทมาเพิ่ม จะช่วยป้องกันสีในถังแข็งตัวก่อนการใช้งานได้เป็นอย่างดีครับ อ้อ..แล้วเรื่องสีแข็งตัวนี่ ยังมีที่ควรระวังอีกนะครับ คือสีที่เหลือจากการใช้งาน เราจะเทลงท่อระบายน้ำ หรือท่อน้ำทิ้งไม่ได้เด็ดขาด!!!! ย้ำๆๆๆๆๆ ห้ามเทลงท่อ ไม่ว่าจะเป็นท่ออะไรก็ตาม โดยเด็ดขาดนะครับ.. เพราะสีพวกนี้ ไหลช้า และสามารถแข็งตัวได้ ดังนั้น หากท่านเทลงท่อน้ำทิ้ง ท่านก็จะต้องเสียเงินค่าทำท่อใหม่อย่างแน่นอน ขอเตือนไว้เลยนะครับ

วิธีการเทสีทิ้งให้ถูกต้อง คือเราต้องเตรียมถังใบใหญ่ พร้อมทั้งถุงขยะหนาๆ (อาจจะซ้อนสัก 2-3 ชั้นก็ได้) จากนั้น ให้ช่างเทสีส่วนที่เหลือลงในถุง ปล่อยไว้ให้แห้ง (ประมาณ 2-3 วัน) จึงค่อยมัดปากถุง แล้วค่อยนำไปทิ้งภายหลังครับ ซึ่งวิธีนี้ สามารถใช้ได้กับงานปูน งานยิปซั่ม และงานสีชนิดต่างๆ อีกด้วยนะครับ

สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการทาสี เราอาจจะใช้แปรงก็ได้ หรือลูกกลิ้งสำหรับทาสีก็ได้ โดยในปัจจุบัน ผมจะถนัดใช้ลูกกลิ้งในการทาพื้นที่หน้าใหญ่ซะก่อน เพราะเร็วและเรียบเนียน (ยิ่งถ้าทำตามขั้นตอนครบถ้วน จะยิ่งทายิ่งชื่นใจ เพราะความสวย) จากนั้น ผมจะเก็บส่วนเล็กๆ หรือรายละเอียดที่ลูกกลิ้งเข้าไม่ได้ด้วยแปรงอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ดี ช่างบางคนอาจจะถนัดที่จะทาสีเก็บรายละเอียดส่วนเล็กๆ น้อยๆ ด้วยแปรงซะก่อน แล้วค่อยจัดการพื้นที่หน้าใหญ่ด้วยลูกกลิ้ง ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใดครับ

ในการใช้ลูกกลิ้งทาสี เราจะต้องใช้ร่วมกับ “ถาดสี” ซึ่งมีหน้าตาตามรูปนะครับ แล้วเราก็จะเทสีลงไปประมาณ 1 ใน 3 ของเจ้าถาดนี่แหละ ค่อยๆ ใช้ลูกกลิ้งจุ่มลงไปในถาดแล้วหมุนจนสีติดเต็มลูกกลิ้งให้ทั่วแต่อย่าให้สีมากเกินไป มิฉะนั้น พอทาเสร็จ เราจะเห็นสีไหลย้อยเป็นแนว (แบบนั้น ต้องกลับไปที่ขั้นตอนการขัดพื้นผิวใหม่นะครับ) แล้วเวลาทาสีด้วยลูกกลิ้ง พอใกล้จะหมด เราจะนำลูกกลิ้งลงจุ่มสีใหม่ และเริ่มทาต่อที่บริเวณที่ยังไม่ลงสี แล้วค่อยๆ ทาเกลี่ยกลับมาที่แนวที่ทำค้างไว้ โดยเหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้สีหนาเกินไปบริเวณรอยต่อ

โดยมากแล้ว การทาสีด้วยลูกกลิ้งจะให้สีที่บางกว่าการใช้แปรง ดังนั้น เราอาจจะต้องทาสีมากครั้งขึ้นกว่าการใช้แปรง เพื่อให้สี ”ขึ้น” ก็ได้ เพราะฉนั้น อย่าเพิ่งตกใจนะครับ และการทาสีที่บาง แต่มากเที่ยวกว่า จะให้สีที่เรียบเนียนสวยกว่า การทาสีที่หนาเพียงไม่กี่เที่ยวครับ

สุดท้ายสำหรับการทาสีนะครับ เมื่อทาสีเสร็จแล้ว ให้รอให้สีแห้งสนิทเสียก่อนที่จะทำการตกแต่งในขั้นตอนอื่นๆ ต่อไป (ถ้ามี) โดยมากแล้วสีน้ำพลาสติก มักจะใช้เวลาแห้งตัวประมาณ 24 ชั่วโมงครับ

 


 

 

 


แหล่งที่มา : www.bareo-isyss.com
จำนวนคนอ่าน : 19204 คน

บทความที่ใกล้เคียงกัน :

 

รับทำวงกบ ประตู หน้าต่าง

การซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วม (ตอนที่ 2)

19 ต.ค. 2554
การซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วม (ตอนที่ 2)

หลังจากน้ำท่วมบ้าน การซ่อมแซมก็ต้องตามมา เพราะน้ำท่วม สร้างความเสียหายหลายแย่งแก่บ้าน ยิ่งถ้าเราไม่ได้ เตรียมการป้องกัน ก็คงจะปวดหัวกันยกใหญ่ บทความนี้จะแนะนำข้อมูลที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการซ่อมแซมบ้าน โดยแบ่งออกเป็น 3 ตอน บทความนี้มาติดตาม ตอนที่ 2 ครับ    Read more

เทรนด์สีใหม่มาแรงในบีนี้

26 ก.ย. 2554
เทรนด์สีใหม่มาแรงในบีนี้

เคยได้ยินคำถามยอดฮิตกันอยู่บ่อยครั้ง ว่าเทรนด์สีปีนี้เป็นอย่างไร มีสีอะไรเก๋ๆทันสมัยสำหรับงานออกแบบตกแต่งบ้าง สำหรับงานสถาปัตยกรรมโดยเฉพาะ โดยความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญในวงการออกแบบแนวหน้าหลายท่านมาช่วยกันระดมความคิด จนเกิดมาเป็น เฉดสีใดที่เจ๋งๆ ทันสมัย โดนใจกันบ้าง    Read more

14 ขั้นตอนในการดำเนินการก่อสร้างบ้านดิน

19 ก.ย. 2554
14 ขั้นตอนในการดำเนินการก่อสร้างบ้านดิน

ขั้นตอนในการก่อสร้างบ้านดิน อาจจะแตกต่างจากการก่อสร้างบ้านทั่วไป เนื่องจากบ้านดินไม่มีระบบโครงสร้าง บ้านดินใช้กำแพงรับน้ำหนัก เพื่อให้การดำเนินการ ก่อสร้างกระชับ ทำได้รวดเร็ว การดำเนินการก่อสร้างบ้านดินมีขั้นตอนดังนี้    Read more

สูตรการหาพื้นที่ของรูปเลขาคณิตพิชิตเงินล้าน

19 ก.ย. 2554
สูตรการหาพื้นที่ของรูปเลขาคณิตพิชิตเงินล้าน

สำหรับคนที่แต่งบ้าน ซื้อบ้าน หรือ แต่งเติมบ้าน ย่อมต้องมีความรู้วิชาคณิตพื้นฐานบ้าง เพราะในการทำบ้านต้องรู้จักวิธีการวัดขนาดความกว้างของบ้าน ซึ่งในก็เกี่ยวกับการนำเฟอร์นิเจอร์แบบต่างๆ เข้าบ้านว่าจะเอาเข้าได้ไหมและอื่นๆ มาดูรายละเอียดกันเลย    Read more

การดูแลรักษาหลังคาบ้านเบื้องต้น

2 ก.ย. 2554
การดูแลรักษาหลังคาบ้านเบื้องต้น

วันนี้จะแนะนำวิธีการดูแลรักษาหลังคาบ้านเบื้องต้น เพื่อให้หลังคาบ้านของเรามีอายุการใช้งานได้ยาวนาน ไม่เกิดรั่วซึม หรือผุพังก่อนเวลาอันควร อีกทั้งยังมีเรื่องของการประหยัดพลังงาน เพราะฉะนั้นเรามาเริ่มดูวิธีการดูแลรักษาบ้านเบื้องต้นกันก่อนเลยจร้า    Read more
Topics 31 - 35 of 77

ชมไอเดีย "รับทำวงกบ ประตู หน้าต่าง" ทั้งหมด