/home/homedecor/domains/www1.homedecorthai.com/public_html/templates/default/ext/ui/article_detail.tpl.php ฮวงจุ้ยร้านค้าบริษัท…เลือกทำเลดี มีชัยกว่าครึ่ง
 
 
    
   
     
     
   
 

ฮวงจุ้ยร้านค้าบริษัท…เลือกทำเลดี มีชัยกว่าครึ่ง

ฮวงจุ้ย

28 ส.ค. 2557

       นอกเหนือจากฮวงจุ้ยบ้านที่เรา  สำหรับร้านค้าไม่ก็บริษัทก็จำเป็นต้องดูฮวงจุ้ยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นฮวงจุ้ยร้านค้า ฮวงจุ้ยบริษัท ความจริงแล้วฮวงจุ้ยของคนก็ยังมี พูดง่ายๆว่าทุกอย่างมีฮวงจุ้ยของมัน การดูฮวงจุ้ยนั้นทำให้เรามีหลัก เพราะหากเราหลักดีแล้วอะไรๆ ก็มักจะดีตามไปด้วย แน่นอนว่าการใช้ฮวงจุ้ยเป็นหลักในการเลือกทำเลดี ทำให้เราก็กำชัยชนะไปแล้วครึ่งหนึ่งเสมอ 


       การพิจารณามาให้ท่านผู้อ่านได้เข้าใจและสามารถนำไปใช้เลือกทำเลของท่านได้ ซึ่งหลักการที่เราจะพูดถึง คือการดึงเอาพลังชี่ที่ดี เข้าสู่ตัวอาคาร ซึ่งพลังชี่นี้ เป็นเสมือนพลังที่หล่อเลี้ยงตัวอาคารสิ่งปลูกสร้าง รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตต่างๆที่อยู่ภายในอาคารนั้น เปรียบเสมือนลมหายใจซึ่งมีออกซิเจน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตที่ก่อให้เกิดพลังชีวิต การเคลื่อนไหวและก่อกำเนิดสิ่งต่างๆ หรือบางตำราอาจเรียกว่า “พลังมังกร” ซึ่งในหลักการของฮวงจุ้ยนั้น การเลือกร้านค้า จำเป็นต้องหาทำเลที่เหมาะสม และสามารถรับพลังชี่ได้มาก ก็จะเกิดความเจริญรุ่งเรืองได้มาก นอกจากนี้กระแสชี่นี้ยังเป็นการนำพาคนจำนวนมากมายังร้านค้าของเราด้วย ซึ่งผมจะสรุปง่ายๆสำหรับการเลือกทำเลร้านค้าเบื้องต้น ซึ่งดึงเอาทำเลในเมืองที่เป็นอยู่ปัจจุบันจริงมาเป็นตัวอย่างให้ท่านผู้อ่าน ได้เข้าใจง่ายๆ และสามารถนำไปดัดแปลงใช้ได้จริงประกอบการพิจารณาเลือกทำเลร้านค้าของท่านเอง ดังนี้
 

     1. การเลือกทำเลที่ดี ควรสามารถรับกระแสพลังจากด้านหน้าได้ดี และมีตัวคอยดักกระแสให้เข้าสู่ร้านค้า เช่น ร้านค้าที่อยู่ริมถนนหากถนนรถวิ่งจากขวามาซ้าย ควรมีป้ายตั้งพื้น วางขวางไว้ทางซ้ายของร้านค้า หรือการติดป้ายแนวยื่นออกไปยังถนนควรอยู่ในตำแหน่งเยื้องไปทางซ้ายของหน้า ร้าน ไม่เอามาขวางไว้ทางขวามือ ก่อนถึงประตูร้านค้า 

     2. ควรเลือกร้านที่ก่อนถึงสะพานลอยคนข้ามเล็กน้อย จะดีกว่าร้านที่เลยไป กรณีนี้ใช้ได้กับถนนลอยฟ้ารถข้าม หรือสิ่งปลูกสร้างที่พาดผ่านทุกชนิด ดังรูป

     3. จุดรถลงสะพาน หากไม่มีสะพานคนข้ามทอดผ่าน หรือป้ายดักกระแสเข้ามายังตัวอาคาร ถือว่าไม่ดี ควรมีทางรถวิ่งเข้า และมีสะพานคนข้ามคอยดักไว้จะดีกว่า

     4. พื้นที่ด้านหน้าอาคาร ไม่ควรใกล้ถนนมากเกินไป ควรเว้นพื้นที่ลานด้านหน้าให้กว้าง ซึ่งภาษาทาง ฮวงจุ้ยเราเรียกส่วนนี้ว่า “เห ม่งตึ๊ง” ลานเหม่งตึ๊งที่ดี ควรกว้าง ได้สัดส่วน ไม่ลาดออก ไม่เอียงออกข้างทั้งสอง จุดนี้ในทางฮวงจุ้ยคือ จุดพักสะสมพลังงานชี่ก่อนที่จะเข้าสู่ตัวอาคาร หากไม่มีจะทำให้พลังสะสมตัวได้น้อยถือว่าไม่ดี และควรมีการไหลของพลังงานชี่เข้าสู่ตัวอาคารจึงจะถูกต้อง
 

     5. หากด้านหน้าอาคารมีกำแพง หรือตึกที่สูงกว่าลานโล่ง ระยะความสูงของกำแพง ไม่ควรสูงเกินระยะห่างถนนกับอาคาร 1.5 – 3 เท่า เช่นลานด้านหน้ามีระยะห่างจากถนนถึงตัวอาคาร 3 เมตร กำแพงไม่ควรสูงเกิน 1-2 เมตร จึงจะดี หากสูงกว่านี้ จะทำให้กระแสเข้าสู่ตัวอาคารได้ยาก
 

     6. เหม่งตึ๊ง ที่ไม่ดี คือ มีการลาดเอียงออกไป หรือกระแสน้ำ หรือถนนตีจาก หรือมีการทิ่มแทงเข้าหมาเหม่งตึ๊ง ถือว่าไม่ดี

     7. เหม่งตึ๊งที่แคบเกินไป มีพื้นที่ด้านหน้าน้อยก็ถือว่าไม่ดีเช่นกัน หรือเหม่งตึ๊งที่กว้างเกินไป ไม่มีอะไรปิดกั้นเลยก็ไม่ดีเช่นกัน

     8. เหม่งตึ๊งที่มีลักษณะแตกๆหักๆ ไม่เรียบก็ถือว่าเป็นลักษณะที่ไม่ดีเช่นกัน

     9. เหม่งตึ๊ง ควรอยู่ในตำแหน่งด้านหน้าตรงกึ่งกลางด้านหน้าของอาคารจึงจะดี

     10. เพื่อให้สามารถเก็บกักพลังงานชี่ได้ นอกจากด้านหน้าจะมีที่ราบแล้ว ด้านหลังควรมีลักษณะสูงใหญ่ เพื่อป้องกันไม่ให้กระแสชี่ที่เข้าจากทางด้านหน้าไหลออกไปทางด้านหลังได้ ง่ายดาย

 

     11.กรณีเป็นร้านค้า ทำเลที่เป็นทางตัน ซอยตัน ถือว่าไม่ดี เนื่อง จากไม่มีการสัญจรไปมาของผู้คน (ไม่เกิดกระแส) ถึงแม้ว่าจะเก็บกักกระแสได้เต็มที่ก็ตาม แต่โดยส่วนใหญ่ในความเป็นจริง เมื่อไม่มีผู้คนสัญจร กระแสก็ไม่เกิด จึงควรเลี่ยง

     12. ความสัมพันธ์ของอาคารสิ่งปลูกสร้าง ต้องสัมพันธ์กับถนน แม่น้ำ เช่น ถนนที่ขนาดใหญ่ กว้าง อาคารควรเป็นตึกสูงใหญ่ รับสอดคล้องกันด้วยจึงจะเจริญรุ่งเรือง  หาก อาคารสูงใหญ่ แต่ถนนด้านหน้าเป็นซอยเล็กแคบ อย่างนี้ก็ไม่เหมาะสมเจริญรุ่งเรืองยากต้องแก้ไขด้วยอย่างอื่น หรือ อาคารเล็กเกินไปแต่ถนนกว้างมากๆก็ไม่อาจจะเก็บกระแสเอาไว้อยู่ได้เช่นกัน (มักพบเห็นได้ตามร้านค้าอาคารเล็กๆตามถนนทางหลวงทั่วไป

     13. การเลือกทำเลตามเส้นทางถนน ให้สังเกตสิ่งแวดล้อมโดยรอบของถนนว่ามีพลังชีวิตที่ดีหรือไม่ ถนนที่มีพลังชีวิตที่ดีต้องมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมพอประมาณ และมีพลังชีวิตของต้นไม้คอยหล่อเลี้ยงบริเวณนั้นอย่างสมดุล ถนนเส้นใดที่ต้นไม้ไม่เจริญเติบโต แห้งแล้ง ไม่มีชีวิตชีวา ก็ให้เลี่ยงถนนเส้นนั้น เนื่องมาจากขาดพลังชี่ที่ดีนั่นเอง
 
    14. อย่างไรก็ตาม เส้นทาง ถนนแต่ละเส้นนั้น พลังชี่สามารถสร้างได้เช่นกัน ถ้ามีทุนทรัพย์มากพอ ก็สามารถบูรณะ หรือตกแต่งให้เกิดพลังชี่ที่ดีได้เช่นกัน แต่หากมีงบประมาณจำกัด การเลือกไปตั้งทำเลยังที่ๆมีพลังชี่ดีอยู่แล้วจะช่วยประหยัดได้มากกว่า
 
    15. ตำแหน่งใกล้สี่แยก โดยปกติแล้วถือว่าเป็นตำแหน่งที่ดี เจริญรุ่งเรืองได้ง่าย เพราะเป็นที่รวมของกระแสพลังงานมารวมกัน แต่ ในปัจจุบันตำแหน่งสี่แยกจะมีการจราจรพลุกพล่าน และมักจะมีสะพานคนข้าม หรือถนนพาดผ่านด้านบน ทำให้ชัยภูมิบริเวณสี่แยกในเมืองใหญ่ๆมักจะกลายเป็นทำเลที่เสื่อมได้ ดังนั้นควรพิจารณาโดยรอยคอบ นอกจากนี้ควรดูในแง่ของการเดินทางด้วย หากใกล้สี่แยกไม่มีที่จอดรถ เปรียบดั่งกระแสไม่สามารถหยุดพักได้ วิ่งมาแล้วก็ผ่านไป อย่างนี้ก็ถือว่าไม่ดีเช่นกัน ควรเลือกเลยออกมาจากสี่แยกระยะนึงจะดีกว่า

    16. หากมีหลายห้องให้เลือกในแนวเดียวกัน ให้ลองดูระดับสู่งต่ำของแต่ละอาคาร จุดที่ดีคือห้องหรืออาคารที่อยู่ต่ำกว่า หรือให้สังเกตเวลาฝนตกแล้วน้ำไหลมารวมกันที่ใด ในบริเวณนั้นจึงจะถือว่าดี

      พูดถึงเรื่องการเลือกทำเลที่ต่ำกว่า อาจจะมีผู้อ่านหลายท่านบอกว่า ที่ต่ำจะดีกว่าอย่างไร เพราะเวลาฝนตกมีโอกาสน้ำท่วมกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ และจะขอชี้แจงให้ทราบง่ายๆ  ว่าการเลือกชัยภูมิในทางฮวงจุ้ยนั้น หากอยู่ที่ต่ำกว่าจะดีในแง่ของเรื่องทรัพย์ เงินทอง ทำมาค้าขึ้น แต่เสื่อมในแง่ของสุขภาพ และบารมี อำนาจ หากอยู่ในตำแหน่งที่สูงจะดีในแง่ของบารมี อำนาจ และสุขภาพ แต่อาจจะเสื่อมในเรื่องของทรัพย์ เงินทอง

      ดังนั้น หากต้องการเลือกทำเลเพื่อค้าขาย ผู้เขียนขอแนะนำให้เลือกที่ต่ำเพื่อความเจริญทางการค้าจะดีกว่า ส่วนทำเลสำหรับบ้าน ที่พักอาศัยต้องดูให้เหมาะสมทั้งสุขภาพ บารมี และเงินทองให้สัมพันธ์กัน ซึ่งซินแสที่มีประสบการณ์และเข้าใจศาสตร์ฮวงจุ้ยจำเป็นต้องผสมผสานทุกๆส่วน ให้สมดุลกันทั้งสองส่วนจึงจะทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองต่อผู้อยู่อาศัยนั่นเอง

 


แหล่งที่มา : www.fengshuix.com
จำนวนคนอ่าน : 24409 คน

บทความที่ใกล้เคียงกัน : ฮวงจุ้ย

 

หินขัด หินล้าง ทรายล้าง คอนกรีตพิมพ์ลาย

ชนิดของประตูบ้าน

26 ส.ค. 2554
ชนิดของประตูบ้าน

คุณเคยสังเกตบ้างไหมว่า ประตูบ้านโดยทั่วไปที่เขาใช้กันในปัจจุบันนี้มีกี่แบบ กี่ชนิด วันนี้ Homedecorthaiจะพูดถึงชนิดของประตูบ้านให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะนำไปใช้ให้เหมาะสมกับบ้านของคุณ ประตูบ้านพักอาศัยโดยทั่วไปจะมีขนาด 0.90 x 2.00 เมตร ส่วนใหญ่เราจะใช้เป็นประตู ห้องนอนหรือห้องครัว แต่ถ้ามีขนาดเล็กลงมาหน่อย คือขนาด 0.80 x 2.00 เมตร ส่วนใหญ่เขาจะใช้เป็นประตู ห้องน้ำหรือห้องเก็บของ แต่ก็ยังมีประตูแบบอื่นๆ อีกหลายแบบให้ได้เลือกใช้กัน มาดูกันค่ะ    Read more

ฉนวนกันความร้อน

25 ส.ค. 2554
ฉนวนกันความร้อน

เมืองไทยเป็นเมืองที่ค่อนข้างร้อน และรู้สึกว่าจะร้อนเพิ่มมากขึ้นทุกปี วันนี้ Homedecorthai จึงนำเรื่อง ?ฉนวนกันความร้อน? มาฝากเพื่อนๆ เพื่อที่เวลาที่เราสร้างบ้านเราจะได้ติดตั้งฉนวนกันความร้อนให้กับบ้านของเรา แต่ก่อนที่คุณจะติดตั้งฉนวนกันความร้อน คุณทราบดีหรือยังว่า ฉนวนกันความร้อนคืออะไร แล้วมีกี่ชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติอย่างไร หรือเหมาะสมกับการใช้งานชนิดไหน เรามาดูกันเลย    Read more

บันไดที่ดีน่าจะกว้างเท่าไรและสูงเท่าไร

25 ส.ค. 2554
บันไดที่ดีน่าจะกว้างเท่าไรและสูงเท่าไร

หากไม่ว่ากันตามตัวบทกฎหมาย แต่ว่ากันตามความสบายและความที่น่าจะเป็น บันไดน่าจะมีสัดส่วนดังนี้ ตามมาดูรายละเอียดกันเลย    Read more

ผนังบ้าน กับ โฟมกันร้อน

24 ส.ค. 2554
ผนังบ้าน กับ โฟมกันร้อน

เราได้อ่านเจอเรื่อง โฟมกันร้อน ใช้พ่นกับผนังบ้าน มันเป็นความรู้ใหม่สำหรับเรามากๆ เราเลยอยากนำมาบอกกับเพื่อนๆ เพื่อที่บางคนกำลังคิดสร้างบ้าน อาจจะใช้โพมกันความร้อนนี้ไปใช้กับบ้านของคุณเองก็ได้ เพราะอากาศบ้านเราร้อนมาก จึงทำให้บ้านเราร้อนมากไปด้วย และเมื่อเรารู้สึกร้อนมากๆ ก็จะทำให้สุขภาพจิตไม่ดี ดั้งนั้น โฟมกันร้อน ก็มีประโยชน์พอสมควรสำหรับอาคาร บ้านเรือน    Read more

เครื่องทำน้ำุอุ่น มีปัญหาทำไงดี

24 ส.ค. 2554
เครื่องทำน้ำุอุ่น มีปัญหาทำไงดี

เครื่องทำน้ำอุ่น เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับหลาย ๆ บ้าน แต่ถ้าเราใช้เครื่องทำน้ำอุ่นบ่อย ๆ ก็ย่อมจะทำให้เครื่องทำน้ำอุ่นมีปัญหาได้ ปัญหานั้นมีหลายแบบอย่างเช่น เครื่องทำน้ำอุ่นไม่สม่ำเสมอบ้างครั้งน้ำก็เย็นเกินไปหรือร้อนเกินไป วันนี้ homedecorthai มีคำตอบมาให้เพื่อน ๆ และยังมีวิธีการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นให้ประหยัดไฟอีกด้วย มาดูกันเลย    Read more
Topics 181 - 185 of 226