|
ปัญหายอดฮิตสำหรับคนที่คิดจะปลูกรังรัก หรือขยายบ้านให้ลูกเขย ลูกสะใภ้ ไม่ว่าจะมีที่ดินของตัวเองอยู่แล้ว หรือกำลังมองหาที่ดินแปลงงามสักแปลงเพื่อสานรังรักให้ได้ดังใจปรารถนา ผมนายช่างเถอะ เองก็ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร
เรื่องบ้าน ถือเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่สำคัญ การลงทุนสร้างบ้านหลังใหม่ถือเป็นเรื่องใหญ่และอาจจะเป็นครั้งเดียวในชีวิตที่จะได้มีโอกาสสร้างบ้านของตัวเอง เชื่อว่าทุกคนที่กำลังจะสร้างบ้านของตัวเอง อาจจะเกิดความสับสนและไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี มันเป็นเรื่องธรรมดาของคนกำลังจะสร้างฝันให้เป็นจริง...ไม่ต้องกังวลมากนัก
อันดับแรกที่เราควรพิจารณาและสำคัญที่สุดคือ “เงินงบประมาณ” เพื่อใช้เป็นทุนสร้างบ้านในฝันหลังใหม่ซึ่งอาจมิใช่แค่เพียงงบประมาณค่าก่อสร้างเท่านั้น แต่ควรจะเผื่อไว้สำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น การเตรียมงาน ค่าจ้างออกแบบหรือค่าที่ปรึกษา ค่างานตกแต่งภายในหรือเฟอร์นิเจอร์ งานสวน และค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดอื่นๆ เพื่อให้บ้านมีความสมบูรณ์แบบและการอยู่อาศัยอย่างมีชีวิตชีวา ควรเผื่องบประมาณไว้สำหรับค่าตกแต่งภายในหรือเฟอร์นิเจอร์ และงบประมาณก้อนสุดท้ายเหลือไว้ใช้จ่ายสำหรับการจัดสวนหรือปลูกต้นไม้รอบๆบริเวณบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศภายนอกบ้านให้น่าอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น
ถัดมาก็ควรไปสำรวจแปลงที่ดินที่จะใช้สำหรับสร้างบ้าน เริ่มตั้งแต่ตรวจสอบขนาดที่ดินจากโฉนดที่ดินและไปดูสถานที่จริง พิจารณาทิศทางและทำเลที่ตั้งของแปลงที่ดิน โดยเฉพาะที่ดินแปลงข้างเคียงว่ามีสิ่งก่อสร้างหรือมีบ้านปลูกสร้างอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ ตรวจสอบว่าสิ่งปลูกสร้างข้างเคียงเว้นระยะห่าง จากแนวเขตที่ดินถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าไม่ถูกต้องหรือปลูกสร้างชิดแนวเขตหรือล้ำเข้ามาในที่ดินของเรา ก็ควรจะแจ้งให้เจ้าของทราบ และพูดคุยขอความร่วมมือให้ปรับปรุงแก้ไขสิ่งก่อสร้างที่มีปัญหาให้เรียบร้อยเสียก่อน เมื่อเวลาก่อสร้างจะได้ไม่เกิดความเสียหายหรือขัดแย้งกันภายหลัง หากว่าที่ดินข้างเคียงยังเป็นที่ดินว่างเปล่าหรือไม่มีบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ก็อย่าเพิ่งประมาทว่าจะไม่มีปัญหาท่านควรตรวจสอบว่าแปลงที่ดินว่างเปล่าของท่าน กับโฉนดที่ดินที่ถืออยู่ในมือเป็นที่ดินแปลงเดียวกันใช่หรือไม่ (ปลูกเรือนผิด คิดจนเรือนพัง แต่ปลูกเรือนผิดแปลงที่ดิน.โดยในโฉนดที่ดินนั้นจะมีรูปที่ดินแสดงไว้ (ส่วนใหญ่จะเป็นรูปสี่เหลี่ยม) และทุกๆมุมจะระบุหมายเลขหมุดที่ดินเอาไว้ เพื่อป้องกันความผิดพลาดท่านจึงควรขุดหาหลักหมุดที่ดิน ณ แปลงที่ดินของท่าน เพื่อตรวจสอบว่าเลขที่ในหลักหมุดตรงกับเลขที่หลักหมุดในโฉนดถูกต้องตรงกัน ควรจะพบหลักหมุดที่ดินอย่างน้อย 2 หลักหมุดขึ้นไป...เพื่อความชัวร์ค่ะ
หากว่าไม่พบหลักหมุดที่ดิน (ทำไงดีล่ะ) ท่านควรไปยื่นคำร้อง ณ สำนักงานที่ดิน เพื่อขอตรวจสอบแนวเขตหรือรังวัดที่ดิน อาจจะมีค่าใช้จ่ายหรือเสียเวลาบ้างแต่ก็ยังดีกว่ามารู้ภายหลังว่าท่าน ไปสร้างบ้านอยู่บนที่ดินของคนอื่น เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นมาแล้วนะครับ (เสียเงินสร้างบ้านแต่กลายเป็นของคนอื่น แถม...อาจโดนข้อหาบุกรุกอีก) เพราะความเข้าใจผิดว่าเป็นที่ดินของตัวเอง เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ขนาดความกว้างความลึกและขนาดของที่ดินถูกต้องตรงกันทุกประการ (แต่ไม่ดูเลขที่ดิน) แล้วยังจำได้ว่าแปลงที่ดินของตัวเองอยู่บริเวณนี้แหละ แต่ขอโทษ...ลืมไปว่าที่ดินข้างเคียงก็มีความกว้างความลึกและขนาดที่ดินเท่ากัน เพราะเป็นที่ดินเปล่าจัดสรรแบ่งขาย เจ้าของโครงการเขาแบ่งแปลงที่ดินไว้เท่ากันทั้งหมด งานนั้นเจ้าของบ้านเป็นลมล้มทั้งยืน
ลำดับต่อมาก็มาพิจารณาว่าจะเลือกใช้ผู้ประกอบการลักษณะใดเป็นผู้รับผิดชอบสร้างบ้านของท่าน ทั้งนี้ขอแนะนำให้ไปปรึกษาและพูดคุยกับ 1.บริษัทออกแบบหรือสถาปนิก
2.บริษัทรับสร้างบ้าน
ส่วนผู้รับเหมารายย่อยทั่วไปไม่ขอแนะนำ เพราะท่านยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการก่อสร้าง แต่ท่านต้องการว่ากันในเรื่องของข้อมูล ขั้นตอน และรายละเอียดต่างๆ เพื่อแปรเปลี่ยนความต้องการไปสู่แบบบ้านและรายการก่อสร้าง ซึ่งผู้รับเหมาทั่วไปไม่ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญในกระบวนการหรือขั้นตอนนี้ ส่วนท่านจะเลือกใช้วิธีใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละท่าน ทั้งนี้การเลือกใช้บริการทั้ง 2 รูปแบบก็มีข้อดี-ข้อด้อยที่แตกต่างกันอยู่บ้างครับ
กรณีว่าจ้างบริษัทออกแบบท่านอาจจะต้องเตรียมตัวและเผื่อเวลาไว้พอสมควร เพราะจะต้องบอกถึงความต้องการให้สถาปนิกผู้ออกแบบทราบเพื่อตีโจทย์ของท่านก่อน จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการทำงานของสถาปนิก เริ่มตั้งแต่ร่างแบบตามจินตนาการ นำเสนอ แก้ไข สรุปแบบและรายการก่อสร้าง และตกลงว่าจ้างการออกแบบ โดยมีค่าวิชาชีพและค่าบริการประมาณ 5-10% ของมูลค่างานก่อสร้าง เมื่อแบบบ้านแล้วเสร็จสมบูรณ์ก็จะเข้าสู่กระบวนการประมูลงานก่อสร้าง และคัดเลือกผู้รับเหมา ทั้งนี้สถาปนิกผู้ออกแบบจะยังมีหน้าที่ให้คำปรึกษา และนำเสนอความเห็นเกี่ยวกับการเสนอราคาค่าก่อสร้างของผู้รับเหมาที่ร่วมประมูล โดยมีราคากลางหรือราคาตามรายการประมาณราคาของบริษัทสถาปนิกผู้ออกแบบเป็นราคาเปรียบเทียบ
การเสนอราคาของผู้รับเหมาที่แข่งขันกันอาจมีความแตกต่างกันไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์หรือขีดความสามารถของผู้รับเหมาและทีมงาน โดยการตัดสินใจเลือกผู้รับเหมาสร้างบ้าน อาจไม่ได้หมายถึงผู้เสนอราคาต่ำสุดก็เป็นได้ หากว่าผลงานหรือประสบการณ์ที่ผ่านมาไม่น่าเชื่อถือ หรืออาจเป็นผู้รับเหมารายที่เสนอราคาสูงสุดที่ได้รับงาน ซึ่งก็อาจจะมีการเจรจาต่อรองกันไป
|