/home/homedecor/domains/www1.homedecorthai.com/public_html/templates/default/ext/ui/article_detail.tpl.php เรื่องการปรับพื้น ถมดิน ที่คุณควรรู้
 
 
    
   
     
     
   
 

เรื่องการปรับพื้น ถมดิน ที่คุณควรรู้

21 ธ.ค. 2554

                                                    ปรับพื้น ถมดิน
ระดับดินที่เหมาะสม

    ก่อนที่จะทำการสร้างบ้าน หรือสิ่งก่อสร้างใดๆ เจ้าของแทบทุกรายจะต้องเกิดคำถามว่า ระดับดินของบ้านหรือโครงการนั้นจะเอาสูงแค่ไหน การที่จะตอบปัญหาข้อนี้ควรจะดูปัจจัยต่างๆ อย่างเช่น
    1. บริเวณพื้นที่นั้น มีน้ำท่วมหรือเปล่า ท่วมสูงแค่ไหน อาจจะต้องสอบถามจากผู้คนแถวๆนั้น หรือถ้าสามารถดูร่องรอยน้ำท่วมที่อยู่ตามสิ่งก่อสร้างต่างๆได้ก็ยิ่งดีครับ
    2. ระดับท่อระบายน้ำและบ่อพักสูงแต่ไหน ระดับน้ำในระบบท่อระบายน้ำในพื้นที่นั้นอยู่ที่ระดับไหน สามารถสอบถามได้จากหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบอยู่ หากระดับที่คุณต้องการถมอยู่ค่อนข้างสูงก็ไม่เป็นไรจะไม่มีปัญหา
        เรื่องการระบายน้ำ แต่ถ้าระดับของคุณค่อนข้างต่ำกว่าพื้นที่ข้างเคียง(ไม่ควร แต่จะด้วยเหตุจำเป็นใดๆก็ตาม) ควรจะเชคตัวนี้ด้วยครับเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำในบ้านเราสามารถระบายออกสู่ระบบระบายน้ำสาธารณะได้
    3. ระดับถนนหน้าบ้าน และระดับดินพื้นที่ข้างเคียง ปัจจุบันมีการถมยกระดับถนนกันมาก แข่งกันถมทั้งถนน ทั้งเพื่อนบ้าน ถ้าสามารถให้ระดับดินของเราใกล้เคียงกับพื้นที่รอบๆก็น่าจะดีครับ ทั้งในแง่ความปลอดภัยของโครงสร้าง
        รั้ว การระบายน้ำ ฯลฯ
        การกำหนดระดับดินถมควรดูปัจจัยรอบๆด้าน ถมสูงหน่อยได้เปรียบ แต่ค่าถมและค่ากำแพงกันดินจะแพงขึ้นตามระดับครับ

ทำไมต้องใช้ลูกรัง
    ดินลูกรังสามารถบดอัดได้ดี เมื่อบดอัดแล้วจะแน่นแข็ง เหมาะแก่การถมเพื่อทำผิวถนนคอนกรีต แต่ไม่เหมาะที่จะใช้ทำสวน ในการถมที่ปลูกบ้านอาจจะแบ่งโซนเป็นดินลูกรังเฉพาะส่วนถนนก็ได้ครับ

ถมดินก่อสร้างบ้าน หรือ ถมทีหลังดี
    การถมดินก่อนสร้างบ้านเครื่องจักรจะทำงานได้ง่าย อีกทั้งดินที่ถมทิ้งไว้จะยุบตัวไปบางส่วนขณะทำการก่อสร้าง เมื่อท่านสร้างบ้านเสร็จแล้วค่อยปรับระดับหน้าดิน และบดอัดดินทำถนนอีกครั้ง ดินจะยุบตัวอีกหลังจากนั้นไม่มากแล้วครับ


ถมดินอย่างไรไม่ทรุด (สำหรับดินบริเวณทั่วไปหรือจัดสวน)
เรื่องการทรุดตัวของดินเกิดจากหลายสาเหตุคือ
     1. ดินที่นำมาถมที่ดินเมื่อถูกขุดและขนย้ายแล้วนำมาถม เนื้อดินจะไม่แน่นมีโพรงอยู่ข้างใน เมื่อถมทิ้งไว้สักหลายๆเดือนดินจะค่อยๆยุบตัวโดยที่โพรงอากาศข้างในจะถูกน้ำหนักดินกดเอาเนื้อดินเข้ามาแทนที่ ทางแก้ ใช้รถแบ็ค
         โฮ รถบรรทุกดินหรือรถแทรกเตอร์ วิ่งบดไปบดมาเป็นชั้นๆละ 30-50 เซนติเมตร จะทำให้โพรงเหล่านี้ยุบลงไปได้มาก กรณีของถนนต้องใช้เสปกสำหรับทำถนนซึ่งยุ่งยากทีเดียว
     2. ดินเดิมเมื่อถูกน้ำหนักดินถมที่ดินกดลงมาก็จะยุบตัว ยุบมากยุบน้อยขึ้นอยู่กับสภาพดินเดิมว่ามีความแน่นเพียงใด เช่นดินเดิมที่เคยใช้เป็นลานจอดรถมานานและมีรถเข้าออกจอดอยู่เสมอก็จะทรุดน้อย ดินเดิมที่เป็นท้องนาหรือ
         ที่ต่ำขังน้ำดินอุ้มน้ำไว้มากจะทรุดตัวมาก ไม่มีทางแก้ครับ ดินจะทรุดไปตามธรรมชาติ แต่ไม่นานอาการนี้จะหยุดไปเอง
     3. ดินทรุดจากการสูบน้ำบาดาลในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล อันนี้ก็ไม่มีทางแก้เช่นกัน ต้องทรุดลงไปเรื่อยๆอยู่แล้ว อาการนี้ไม่หยุด (ยกเว้นจะหยุดสูบน้ำบาดาลอาการก็จะค่อยๆช้าลง)
     4. อินทรีวัตถุผิวดิน เช่นบริเวณน้ำขังจะมีขี้เลนซึ่งเป็นอินทรีวัตถุจากการเน่าเปื่อยของพืชน้ำ รวมทั้งซากต้นไม้ต่างๆด้วย เมื่อถมดินกลบไปแล้วจะค่อยๆ ย่อยสลายยุบตัวแล้วดินถมที่อยู่ข้างบนก็จะยุบตัวตามลงมา ทางแก้ กรณี
         เป็นที่น้ำขัง ถ้ามีขี้เลนเหลวๆ รวมทั้งพืชน้ำต่างๆ ให้ลอกออกก่อน ถ้าเป็นที่แห้งให้ถางพืชต่างๆรวมทั้งขุดตอไม้ใหญ่ออกด้วย หรืออาจใช้วิธีจุดไฟเผาก็ได้ถ้าสามารถควบคุมการลุกลามของไฟได้ ดินถมบริเวณใดไม่ได้มีการ
         ลอกเลน หรือบริเวณที่มีอินทรีวัตถุออกอยู่มากเอาออกไม่หมด ก็จะยุบเป็นหลุมๆ  
         หากมีการคุมงานรับเหมาถมดินที่ดี ตามวิธีในข้อ 1 และข้อ 4 แล้วดินที่ถมที่ดินจะไม่ยุบมาก ไม่ต้องมาปรับระดับที่หลังอีกที (หรือปรับไม่มาก) ครับ
  
      ในการพิจารณาว่าต้องมีการบดอัด หรือมาตรการป้องกันดีแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าเราต้องใช้พื้นที่บริเวณนั้นอย่างไร เช่นถ้าใช้เป็นถนนคอนกรีตจะต้องมีการบดอัด และกำจัดเศษวัชพืชอย่างดี เนื่องจากการทรุดตัวของดินต่างกันเล็กน้อยก็อาจทำให้ผิวถนนแตกร้าวได้ แต่ถ้าใช้เป็นพื้นที่จัดสวนนั้นเราสามารถปรับระดับดินภายหลังจากที่ทิ้งให้ดินยุบตัวไปสักปีสองปีแล้ว แต่ก็ควรจะบดอัดบ้างเหมือนกันถ้าเราต้องการสวนที่สวยเรียบในปีแรกๆ ครับ

ระวังรั้วเอียง
   
  ธรรมชาติดินนั้นมันไม่ใช่เพียงอยู่นิ่งๆเท่านั้น แต่มันจะมีแรงดันทางด้านข้างด้วย ดินที่ระดับเท่ากันต่างคนต่างดันกันเองกับเพื่อนๆรอบตัวมัน ก็ไม่เป็นไร แต่ดินต่างระดับความสูงที่ถูกกั้นไว้ด้วยกำแพงรั้วนั้น ดินที่สูงกว่าจะมีแรงดันมากกว่าผลักออกไปทางดินที่ต่ำกว่า แรงนี้เองที่กำแพงรั้วจะต้องรับไว้ คุณจึงเอากำแพงรั้วแบบธรรมดามาใช้เป็นกันดินที่ต่างระดับมากๆไม่ได้ครับ โครงสร้างกำแพงรั้วต้องออกแบบให้รับแรงดันดินได้โดยไม่เอียง
ถมดินอย่างไรไม่โดนโก่งราคา
      ในการถมดินสำหรับเจ้าของงานนั้นไม่แนะนำให้จ้างรถดินขน และจ้างรถบดเข้ามาเองครับ เนื่องจากถ้าไม่คุ้นเคยกับงานแล้วอาจจะโดนโกงได้ง่าย ควรจะจ้างผู้รับเหมาถมดินให้จัดการให้เสร็จ แล้วทีนี้การติดต่อกับผู้รับเหมาถมดิน เราจะรู้ได้อย่างไรว่าราคาควรจะเป็นเท่าไหร่ ตกลงกันตรงไหน
       1.  เริ่มที่การคิดปริมาณดิน ก็คือ กว้างคูณยาวคูณสูง หรือพื้นที่คูณความสูงนั่นเอง ในกรณีที่พื้นที่เดิมไม่สม่ำเสมออาจจะต้องเฉลี่ยระดับ กรณีพื้นที่กว้างๆ มูลค่างานมาก ควรจะจ้างช่างสำรวจหาระดับดินในตำแหน่งต่างๆ แล้ว
            คำนวณปริมาณดินออกมา
       2.  ราคาต่อหน่วย เมื่อทราบปริมาณดินที่ต้องการแล้วคูณด้วยราคาต่อหน่วยก็จะเป็นราคารวม ราคาต่อหน่วยนี้ต้องสูงกว่าราคาดินจากรถขนดิน เนื่องจากเวลานำดินมาบดอัดแล้วปริมาตรจะยุบตัวลงไป และผู้รับเหมาต้องบวก
            ค่าดำเนินการ กำไรต่างๆด้วย ให้ลองเช็คราคาดูกับผู้รับเหมาหลายๆราย ก็จะทำให้เราทราบราคาตลาดครับ
       3.  ข้อกำหนดในการทำงาน เช่นต้องลอกเลนหรือไม่(น่าจะลอกนะครับ) บดอัดทุก 30 ซม หรือ 50 ซม. ซึ่งจะคุมเข้มแค่ไหนขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การใช้งานพื้นที่ เช่นพื้นที่ถมทิ้งไว้เฉยๆ หรือใช้จัดสวน ก็ควรมีการบดอัดบ้าง
            แต่ถ้าเป็นถนนต้องมีการบดอัดและควบคุมคุณภาพอย่างดีไม่อย่างนั้นถนนจะแตกร้าวได้ครับ
       4.  ตอนทำงานควรไปดูบ่อยๆด้วยครับ ผู้รับเหมาจะได้ทำตามที่ได้ตกลงกัน
       5.  ก่อนเริ่มทำการถม ควรมีการทำระดับอ้างอิงไว้เพื่อตรวจสอบ เช่นการพ่นสี ตอกตะปูกำหนดระดับไว้ตามเสาไฟฟ้า หรือสิ่งก่อสร้างข้างเคียงที่มีลักษณะถาวร ไม่เคลื่อนย้าย เมื่อผู้รับเหมาจะส่งมอบงานจะได้ทำการตรวจสอบ
            ได้ครับ
                                                                   
       นอกจากนั้น ราคาที่ดินยังขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัยเช่น
       1. ระยะทาง ระหว่างบ่อดินที่เราซื้อดินมากับสถานที่ก่อสร้าง (ราคาค่าขนส่ง)

       2. ชนิดของดิน ดูจากความลึกของดินที่ขุดขึ้นมา หน้าดิน 0-0.50 ม.บางที่ก็ถึง1.00 ม. จะแพงที่สุด เหมาะสำหรับการปลูกต้นไม้ (ดินจะมีสีดำ) ลึกกว่านี้ลงไปราคาจะถูกลง เพราะแร่ธาตุในดินจะน้อย ถมที่ดีแต่ไม่เหมาะจะ
           ปลูกต้นไม้แล้ว(ดินออกสีน้ำตาลๆ มีทรายปน) แต่ถ้าลึกลงไปมากๆ จนดินออกเป็นสีขาวๆ จะปลูกอะไรไม่ขึ้นเลย แต่นำมาใช้ถมได้ดีมาก ราคาถูกที่สุด
      
3. ลักษณะการถมดิน ถ้าใช้รถตัก-ตักดินแล้วเอามากองๆ ไว้ ดินจะดูเต็มเร็วแต่จะหลวมมาก และจะทรุดตัวในภายหลังอย่างมากด้วย ( ถ้าเป็นงานเหมา-ต้องระวังเรื่องนี้มากๆ ต้องมีคนคอยดูที่หน้างาน ) ถ้าถมในลักษณะ ถม
           แล้วใช้รถบรรทุกถอยทับ ดินจะแน่นขึ้น จะได้ดินปริมาณมาก(แต่ผู้รับเหมาไม่ชอบ และดินต้องเป็นดินแห้ง) มีถมลักษณะอื่นอีกหรือเปล่าผมไม่แน่ใจครับ แล้วแต่เทคนิคของผู้รับเหมาด้วย
      
4. การขนส่ง จะใช้รถบรรทุกเป็นส่วนมาก ความกว้างของกระบะรถ10 ล้อ ประมาณ 2.5 x 6 ม. ความสูง-ส่วนมากเค้านับกันเป็น "ไม้" เช่น  ไม้ 1, ไม้ 2 อะไรทำนองนี้ "ไม้" คือ ไม้ที่เป็นซี่วางตามแนวนอนด้านข้างกระบะ
           นับจากล่างขึ้นบน รถแต่ละคันความสูงจากท้องกระบะถึงซี่ไม้จะไม่เท่ากันครับ รถบางคันท้องลึก บางคันท้องตื้น ถ้าคิดปริมาตร 2.5 x 6 x สูงซัก1.2 ม. จะได้ 18 ลบ.ม. แต่ส่วนใหญ่ งานดินจะคิดค่าความโปร่งที่ 50%
           แสดงว่าเราได้ดินจริงๆ แค่ 9 ลบ.ม.
      
5. เวลาในการถม ก็ขึ้นอยู่กับระยะทาง ที่ดินจะเดินทางมาจากบ่อดิน และจำนวนรถที่ใช้ขนส่ง ถ้าใช้รถหลายคันวันหนึ่งๆ ก็ขนได้หลายเที่ยว (อันนี้ก็แล้วแต่ความเหมาะสม เพราะระหว่างทางผู้รับเหมาอาจต้องจ่ายค่าความ 
           สะดวกในการผ่านทางบ้าง)
      
6. ส่วนการบดอัด ก็แล้วแต่ตกลงว่า จะถมอย่างเดียว หรือบดอัดด้วย
      
7. ราคาดิน จริงๆ แล้วสามารถต่อลองกันได้ครับ ขึ้นอยู่กับความพอใจของทั้งสองฝ่าย

 


แหล่งที่มา : www.land.co.th
จำนวนคนอ่าน : 52954 คน

บทความที่ใกล้เคียงกัน :

 

หินขัด หินล้าง ทรายล้าง คอนกรีตพิมพ์ลาย

ห้องน้ำ กับการใช้งาน

21 ธ.ค. 2554
ห้องน้ำ กับการใช้งาน

วันนี้ Homedecorthai จะพูดถึง ห้องน้ำ ซึ้งเป็นห้องสำคัญอีกห้องหนึ่งภายในบ้านของเรา ห้องน้ำภายในบ้านต้องออกแบบให้ใช้งานได้สะดวกและปลอดภัยกับทุกคน เพราะคนภายในบ้านอาจจะมีทั้ง เด็กและคนที่มีอายุมากๆ ดังนั้นการออกแบบและการใช้งานต้องเหมาะสม ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ แล้วส่วนต่างๆ ภายในห้องน้ำที่ต้องออกแบบให้ดี และควรระวังในการออกแบบทุกครั้ง นั้นคือ    Read more

ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัย

21 ธ.ค. 2554
ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัย

Homedecorthai มีเรื่องของการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัยมาบอกเพื่อนๆ การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัยนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะชีวิตประจำวันของเราต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นประจำ ดังนั้นเพื่อนๆ ควรทราบวิธีใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัยก่อนการใช้งานทุกครั้ง Homedecorthaiนำวิธีง่ายๆ ที่จะทำใ้ห้การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณปลอดภัยมาแนะนำ    Read more

อิฐมอญกับคอนกรีตบล็อคจะเลือกใช้อะไรดี

21 ธ.ค. 2554
อิฐมอญกับคอนกรีตบล็อคจะเลือกใช้อะไรดี

อิฐมอญ คือ ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการนำดินมาทำให้สะอาดปราศจากสิ่งเจือปน นำมาบดอัด ตัดเป็นก้อนเข้าเตาเผา ก็จะได้อิฐออกมาใช้ ความจริงอิฐในลักษณะนี้มีมานานมากแต่ครั้งโบราณกาล อิฐเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ซึ่งสามารถหาวัตถุดิบได้ง่าย ขบวนการทำก็ไม่ซับซ้อน และคุณสมบัติของอิฐก็นับว่าดีเยี่ยม ทั้งความสะดวกในการก่อ มีความสามารถในการทนไฟ ใช้เป็นฉนวน มาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ    Read more

รู้ทันช่างรับสร้างบ้าน

21 ธ.ค. 2554
รู้ทันช่างรับสร้างบ้าน

ในการสร้างบ้าน เรามีโอกาสที่จะเจอกับช่างรับสร้างบ้านได้หลายรูปแบบ และอาจทำให้เกิดปัญหาได้หากช่างผู้นั้นขาดประสบการณ์ หรือไม่มีใจรักในการทำงาน ซึ่งมีสาเหตุดังต่อไปนี้    Read more

สร้างบ้านอย่างไรให้ประหยัด

21 ธ.ค. 2554
สร้างบ้านอย่างไรให้ประหยัด

ลดการใช้งานวัสดุการก่อสร้างบางส่วนลง ในบริเวณที่ไม่จำเป็นต้องการโชว์ความสวยงาม ก็ยังสามารถช่วยในการสร้างบ้านอย่างประหยัดได้นะค่ะ ลองดูค่ะ    Read more
Topics 106 - 110 of 226